ตอนนี้ถ้าพูดชื่อ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ ใครๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะเธอคือ Miss Universe Thailand 2017 ตัวแทนสาวไทยที่เข้าร่วมประกวดเวทีระดับโลก Miss Universe 2017 อยู่ในขณะนี้ แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเด็กสาวลูกครึ่งไทย-สวีเดนที่เริ่มงานเดินแบบตั้งแต่อายุ 13 มีผลงานถ่ายแบบกับนิตยสารแทบทุกฉบับ ก่อนจะพลิกบทบาทไปเป็นนักร้อง ออกมินิอัลบั้ม Maxi Single กับค่ายเพลงสมอลล์รูม มีเพลงติดหูอย่าง เบลอ, บุ๋ง และ เก็บโต๊ะ

     หลังจากนั้นมารีญาเดินทางไปศึกษาที่ประเทศสวีเดนจนจบปริญญาโทด้านการตลาดจาก Stockholm Business School และกลับเมืองไทยเพื่อมาสมัครเข้าประกวด Miss Universe Thailand อันเป็นการสานต่อความฝันที่มารีญาเคยตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็ก

     THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับมารีญา ตัวแทนความฝันของคนไทยทั้งประเทศว่าเธอพร้อมไหม เตรียมตัวอย่างไรบ้าง และความฝันที่จะได้สวมมงกุฎนางงามจักรวาล เธอหวังกับตำแหน่งนี้แค่ไหน

 

 

ที่ผ่านมามารีญาเตรียมตัวอะไรบ้าง เน้นหนักเรื่องอะไรมากที่สุด

     แต่ละช่วงเราก็จะเน้นแตกต่างกันไป ในช่วงแรกก็จะเน้นวิธีการจัดระบบความคิดและพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันช่วยได้มากเรื่องการตอบคำถาม มารีญาตื่นเต้นมาก เพราะการตอบคำถามและทำสมาธิ สองอย่างนี้เป็นเรื่องสำคัญ ก็ได้กลับไปดูคลิปเก่าๆ เพื่อศึกษา และช่วงที่มารีญาเดินทางไปเก็บตัวที่อเมริกาก็จะเน้นเรื่องตอบคำถามให้มากขึ้นไปอีก ปรินต์ข้อมูลต่างๆ ไปอ่านบนเครื่องบินและตอนที่อยู่อเมริกาด้วยค่ะ

     ส่วนเรื่องสมาธิ มารีญาเพิ่งได้ไปปฏิบัติธรรมมา เลยได้ฝึกเรื่องการสวดมนต์และนั่งสมาธิ จริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็ทำเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ช่วงนี้จะเน้นเป็นพิเศษ เพราะความกดดันและความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มารีญาคิดว่าสมาธิเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ตอนอยู่บนเวที เพราะต่อให้มารีญาเดินแบบมากี่งานแล้ว ขึ้นเวทีทุกครั้งก็ยังตื่นเต้นอยู่

     และที่เน้นที่สุดในช่วงนี้คือเรื่องการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมสำหรับการรำโขนในช่วงที่พรีเซนต์ชุดประจำชาติ เพราะโชว์นี้ต้องใช้แรงและพลังเยอะมาก มารีญาอยากให้ตัวเองฟิตที่สุด พร้อมรบที่สุด เพราะครั้งนี้เป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต และเราไม่ได้แค่ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย

 

 

ชุดที่เตรียมไปใช้ระหว่างที่อยู่ในการประกวดเป็นอย่างไรบ้าง

     ชอบทุกชุดมากๆ ภาพโดยรวมส่วนใหญ่จะเป็นผ้าไทย เพราะว่าเป็นงานจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงสนพระทัยและทรงสนับสนุนชาวบ้านในการสืบสานศิลปะไทย มารีญาเลยอยากสนับสนุนเรื่องนี้มากๆ เหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าผ้าไทยเป็นอะไรที่ใส่ได้ในทุกๆ โอกาส อีกอย่างดีไซเนอร์ไทยของเราก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน มารีญาโชคดีมากที่มีดีไซเนอร์ไทยมาทำชุดผ้าไทยให้โดยเฉพาะ

 

สิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่วันที่เขียนใบสมัครจนมาถึงวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง เกินกว่าที่ฝันไว้ไหม

     แน่นอนค่ะว่าเกินฝัน แต่ทุกอย่างที่มารีญาได้รับตั้งแต่วันแรกมันก็ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ แล้วการที่มารีญาได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ทำให้มีโอกาสได้พูดในสิ่งที่มารีญาอยากพูด ซึ่งเสียงตอนนี้ดังกว่าการเป็นนางสาวมารีญาในวันแรกที่เข้ามาประกวด เป็นเสียงที่มีคนรับฟังและพร้อมจะเข้ามาช่วย โดยเฉพาะเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรที่มารีญาพูดตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว ตอนนี้ก็ได้เริ่มคุยกับ UNFPA (United Nations Population Fund) ทำให้เราได้รู้เรื่องสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น โชคดีมากที่การประกวดครั้งนี้ทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่อยากจะทำได้เร็วและดีกว่า เพราะถ้าหลายคนร่วมมือ มันก็จะดีกว่าที่มารีญาทำคนเดียวอยู่แล้ว

 

 

การเป็นนางแบบกับนางงามต่างกันอย่างไร

     ต่างกันแน่นอน นางแบบเป็นเหมือนหุ่นที่ทำตามดีไซเนอร์ เราจะไม่มีเสียง เรามีแค่บุคลิกที่แสดงตัวตนที่แตกต่างจากนางแบบคนนี้คนนั้น แต่ถ้าเป็นนางงาม มันจะมีความเป็นตัวเองมากๆ ตอนอยู่บนเวทีเราจะพรีเซนต์ตัวเอง เราจะบอกทุกอย่างที่ตัวเองเชื่อและอยากจะทำ

 

แล้วคำว่า ‘Miss Universe’ ในความคิดของมารีญาเป็นอย่างไร

     คำว่า Miss Universe เป็นอะไรที่ใหญ่โตกว่าแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่แสดงถึงความสดใส ถ้าคิดเป็นรูปภาพก็จะเป็นแสงสว่าง และจะเป็นเสียงสำหรับคนที่ยังไม่มีเสียงให้เชื่อมั่นในตัวเอง Miss Universe มีความสำคัญมาก เพราะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นตัวอย่างให้ใครหลายๆ คน

 

 

อะไรคือเสน่ห์ของผู้หญิงไทยที่คนต่างชาติสัมผัสได้

     เสน่ห์ของไทยมีหลากหลายด้านมากเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ถ้าเราเจอคนไทยนะคะ เราจะรู้สึกเลยว่าเขาคือคนไทย คนไทยจะมีความอ่อนน้อม นุ่มนวล แต่ก็จะยังมีความแข็งแรงด้วย สิ่งที่มารีญาเห็นว่าเป็นความน่ารักที่สุดของคนไทยคือการแบ่งปันค่ะ คือเวลากินข้าวด้วยกัน เราก็จะตักกับข้าวให้กัน อย่างส้มตำ 1 จานเราก็แชร์กันได้หลายคน นี่เป็นเสน่ห์ของคนไทย มันคือการให้ ความใส่ใจ ความรัก และรอยยิ้ม

     วัฒนธรรมไทยที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากทุกๆ ชาติ คิดว่าปีนี้เป็นปีของเมืองไทย เราจะต้องเป็นที่จับตามองของประเทศต่างๆ แน่นอน

 

หวังว่าจะได้อะไรกลับมาบ้างจากเวทีประกวดในครั้งนี้

     สิ่งที่คาดหวังมากที่สุดก็คือให้ประเทศไทยภูมิใจในตัวมารีญา เพราะว่าเราทำทุกอย่างเต็มที่และตั้งใจมาก มารีญาอยากให้คนไทยมีความสุขกับการประกวดครั้งนี้ และอยากเอาความสุขกลับมาพร้อมมงกุฎเพื่อมอบให้คนไทยทุกคน

 

     THE STANDARD ขอเป็นอีกหนึ่งแรงเชียร์ให้มารีญาคว้ามงกุฎกลับมาให้คนไทยได้ตามความฝันของเธอ

 

PHOTO: Miss Universe Thailand, Nat Prakobsantisuk, Wasunupas Pengsomya/Facebook