×

ทำความรู้จัก มิไรโทวะและโซเมตี้ มาสคอตโอลิมปิก-พาราลิมปิก 2020

23.07.2018
  • LOADING...

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ญี่ปุ่นได้ประกาศชื่อของมาสคอตที่ใช้สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและกีฬาพาราลิมปิก ปี 2020 โดยมาสคอตตัวแรกมีลายสีขาว-น้ำเงิน ชื่อว่า ‘มิไรโทวะ’ (Miraitowa) มาจากการรวมคำว่า มิไร (Mirai) ที่แปลว่า ‘อนาคต’ เข้ากับคำว่า โทวะ (Towa) ที่แปลว่า ‘ไม่สิ้นสุด’ ซึ่งเจ้ามิไรโทวะจะเป็นมาสคอตประจำกีฬาโอลิมปิก

 

ส่วนตัวที่สองมีสีขาว-ชมพูชื่อว่า ‘โซเมตี้’ (Someity) มาจากชื่อของซากุระสายพันธ์ุโซเม-โยชิโนะ (Somei Yoshino) และคำว่าโซเมตี้ยังออกเสียงคล้ายกับคำว่า So Mighty ในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่ายิ่งใหญ่ โดยเจ้าโซเมตี้จะเป็นมาสคอตประจำกีฬาพาราลิมปิก

 

ทีมงานที่ออกแบบมาสคอตสองตัวนี้ได้อธิบายว่า ความสัมพันธ์ของสองตัวนี้คือเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยเจ้ามิไรโทวะจะให้กลิ่นอายของความดั้งเดิมสะท้อนวัฒนธรรมของญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยผ่านรูปลักษณ์สุดล้ำ ส่วนเจ้าโซเมตี้จะให้ความรู้สึกสงบ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแกร่ง ภายนอกที่สื่อถึงความสง่างามและมีหัวใจที่มีเมตตาและรักธรรมชาติ

 

 

ความพิเศษของเจ้าสองตัวนี้คือมีพลังพิเศษเหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่ โดยพลังพิเศษของมิไรโทวะคือ สามารถหายตัวไปที่ไหนก็ได้ในทันที และพลังพิเศษของโซเมตี้ คือ สามารถพูดคุยกับก้อนหินและสายลมได้ รวมทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ด้วยการมอง

 

ซึ่งชื่อของเจ้ามาสคอต 2 ตัวนี้มาจากการโหวตของนักเรียนชาวญี่ปุ่นทั้งในประเทศและนอกประเทศ จำนวน 16,700 โรงเรียน โดยโหวตผ่านโปรแกรม Yoi Don! ซึ่งเป็นโปรแกรมการศึกษาของญี่ปุ่นที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย การให้เด็กนักเรียนโหวตชื่อของมาสคอตจะทำให้เขาได้มีส่วนร่วมในการจัดงานโอลิมปิกครั้งนี้

 

การนำมาสคอตมาใช้ในกีฬาโอลิมปิกเริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1968 เพื่อเป็นตัวแทนนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศผู้เป็นเจ้าภาพ ซึ่งที่ผ่านมามาสคอตต่างก็มีรูปร่างที่หลากหลายตั้งแต่สุนัขไปจนถึงหมี หรือเทพเจ้าในตำนานกรีกไปจนถึงเอเลี่ยน ซึ่งลักษณะของมาสคอตแต่ละตัวขึ้นอยู่กับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของประเทศที่เป็นเจ้าภาพแต่ละปี

 

โดยกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 29 นี้ ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2020 ส่วนกีฬาพาราลิมปิกจะเริ่มจัดช่วง 25 สิงหาคม ถึง 6 กันยายน 2020

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising