ปลัดคลังเล็งหามาตรการกระตุ้นบริโภคระยะสั้น เสนอ ศบศ. 7 ตุลาคมนี้ พร้อมเร่งรัดเบิกจ่ายรัฐวิสาหกิจปีงบ 2564 ตามเป้า ด้านซอฟต์โลนช่วยกลุ่มการบิน เตรียมหารือ ธปท. หวังใช้วงเงินส่วนที่เหลืออีก 4 แสนล้านบาทดำเนินการ
กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยในการประชุมกับผู้บริหารส่วนงานกระทรวงการคลังในวันนี้ว่า เป้าหมายของกระทรวงการคลังคือการหามาตรการทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อดูแลเศรษฐกิจในหลายมิติ โดยมาตรการนั้นจะมีด้านภาษี การดูแลเรื่องงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้มีความชัดเจนและถูกฝาถูกตัวมากขึ้น
“ในวันนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะหารือกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ถึงมาตรการกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้น เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พิจารณาในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ โดยมาตรการนั้นจะเน้นถูกฝาถูกตัวมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายกฤษฎา กล่าว
กฤษฎากล่าวว่า ส่วนเป้าหมายการเบิกจ่ายและการจัดเก็บรายได้นั้น ได้มอบหมายให้ทุกส่วนงานรวมถึงรัฐวิสาหกิจไปเร่งเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ภาครัฐยังเป็นบทบาทสำคัญในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
“แม้วันนี้จะเป็นปีที่ยากลำบาก แต่ผู้บริหารก็ยืนหยัดและเชื่อว่าการเบิกจ่าย หรือการจัดเก็บรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยทุกส่วนงานจะต้องทำงานเป็นทีมกระทรวงการคลัง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ต่างหน่วยงาน ซึ่งหากรวมกันเป็นทีมเราจะมีมาตรการในอนาคตเป็นรูปธรรมมากขึ้น” กฤษฎา กล่าว
สำหรับประมาณการรายได้ปีงบประมาณ 2564 ที่ 2.67 ล้านล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ภายใต้การประมาณการเศรษฐกิจที่ สศค. คาดว่าจะขยายตัวได้ 4-5% ส่วนแผนการก่อหนี้ในระยะ 5 ปีนั้น ทั้งจาก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และการกู้ชดเชยการขาดดุลปกติแล้ว เชื่อว่าจะไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังที่ 60% อย่างแน่นอน โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประมาณการว่าแผนการกู้ 5 ปี หนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 57% ต่อจีดีพีเท่านั้น
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มการบินผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) นั้นจะให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องหารือกับ ธปท. ว่าจะใช้วงเงินซอฟต์โลนที่เหลือของ ธปท. ช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้วงเงินไปเพียงแสนกว่าล้านบาทเท่านั้น จากวงเงิน 5 แสนล้านบาท
กฤษฎายังกล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังนั้น โดยส่วนตัวพร้อมที่จะทำงานกับทุกท่านที่จะเข้ามา และเชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ขณะที่นายอาคมเอง ก็เชื่อว่าท่านมีความเข้าใจเศรษฐกิจและใกล้ชิดกับภาคเอกชนด้วย
พิสูจน์อักษร : วรรษมล สิงหโกมล
รายงาน: ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
เรียบเรียง: จำเนียร พรทวีทรัพย์
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com