วันนี้ (15 พฤษภาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงานและตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชนล็อต 3 ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นโทซ่า ขอนแก่น พร้อมกับตัวแทนห้างท้องถิ่นทั่วประเทศทั้งที่มาร่วมที่นี่ และทางท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคผ่านระบบ Zoom เว็บคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่สไตล์ New Normal ซึ่งจุรินทร์ได้ทักทายทั้งภาคเหนือ จังหวัดลำปาง ภาคใต้ จังหวัดชุมพร, ยะลา, สุราษฎร์ธานี ภาคกลาง ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น
จุรินทร์กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการลดราคาสินค้าใน 6 กลุ่มสำคัญ ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง กลุ่มซอสปรุงรส กลุ่มของใช้ประจำวัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ชำระล้างร่างกาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้าง
ซึ่งทั้ง 2 รอบที่ผ่านมานั้นมีสินค้าเข้าร่วมรายการรวมกันทั้งหมด 3,025 รายการ และลดราคาสูงสุดถึง 68% โดยมีห้างสรรพสินค้าในระดับประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 13 ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน ซึ่งทั้ง 13 ห้างสรรพสินค้านี้มีสาขารวมกันทั่วประเทศ หมายความว่าการลดราคาในโครงการพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชนทั้ง 2 รอบที่ผ่านมานั้น เป็นการลดราคาสินค้าภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์กับเอกชน ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ
“ผมเห็นว่าถ้าเราจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น เพราะ 2 รอบที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับอย่างดี โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 3 จึงเกิดขึ้น เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศจาก 67 จังหวัด โดยมีห้างท้องถิ่นทั้งหมดรวม 158 ห้าง 287 สาขาที่กระจายอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ และมีสินค้าเพิ่มเติมจากล็อตที่สองอีกจำนวนถึง 1,717 รายการ ในการเข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 3 และลดราคาสูงสุด 68% เช่นเดียวกัน” จุรินทร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อนับรวมโครงการพาณิชย์ลดราคาล็อต 1-3 ร่วมกันแล้ว ณ เวลานี้ถือว่าโครงการนี้มีสินค้าเข้าร่วมรายการรวมกันทั้ง 3 ล็อต จำนวนถึง 4,845 รายการ และลดราคาสูงสุดถึง 68% เช่นเดียวกัน และที่สำคัญคือกระจายลงไปในพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ ทั้งในระดับห้างสรรพสินค้า ค้าปลีกค้าส่งระดับชาติ และห้างค้าส่งระดับท้องถิ่น ที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ ทุกภูมิภาคของประเทศไทย การเปิดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 3 ของกระทรวงพาณิชย์กับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นทั่วประเทศนี้ มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศอย่างน้อยที่สุด
ประการที่หนึ่ง จะมีส่วนสำคัญในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ
ประการที่สอง เท่ากับเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินเยียวยาของรัฐบาลที่จ่ายเงินให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนคนละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่ง 5,000 บาทต่อเดือนนั้น ถ้านำมาซื้อสินค้าลดราคา สมมติเฉลี่ยลดร้อยละ 60 ก็จะเท่ากับว่าเงิน 5,000 บาท ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้มากขึ้นอีก 3,000 บาท อีกนัยหนึ่งก็หมายความว่าเงินเยียวยาที่รัฐบาลจ่ายให้กับผู้มีคุณสมบัติเดือนละ 5,000 บาทนั้น จะงอกเป็นเดือนละ 8,000 บาท ถ้าเป็นเวลา 3 เดือนก็จะเป็น 24,000 บาท
และประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ตนได้คุยกับเจ้าของห้างท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศ มีความเห็นตรงกันว่า โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 3 นั้น จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของพี่น้องประชาชน และเป็นการช่วยให้เกิดการหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างโควิด-19 นี้ก็ตาม
“ขอขอบคุณห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นทั้งหมดจาก 67 จังหวัด 158 ห้าง 287 สาขาทั่วประเทศ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกับกระทรวงพาณิชย์ ในการเข้าร่วมกับโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน หวังว่าจะมีส่วนสำคัญในการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน” จุรินทร์กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
