ฟุตบอลทีมชาติไทยเตรียมกลับมาลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ปลายปีนี้ โดยล่าสุด มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่เรียก 4 นักเตะที่ค้าแข้งอยู่ต่างแดนทั้ง เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์, มุ้ย-ธีรศิลป์ แดงดา, อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน และตอง-กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กลับมาลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้โชว์ฝีเท้าเพื่อเตรียมทีมต่อยอดไปเล่นในฟุตบอลเอเชียนคัพต้นปีหน้า
โดยกุนซือชาวเซอร์เบียให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากการประชุมหารือในการเตรียมความพร้อมก่อนทำศึกสองรายการใหญ่ ได้แก่ รายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนและชิงแชมป์เอเชียที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า
“ช่วงปลายปีทีมชาติไทยจะลงแข่งขัน 2 รายการสำคัญคือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018 และเอเชียนคัพ 2019 รวมไปถึงจะมีเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติฮ่องกงและทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ซึ่งทั้งหมดนี้ได้มีการวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือก็จะติดตามดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นในลีกและตัดสินใจเรื่องตัวผู้เล่นอีกครั้ง
“ส่วนบรรดาผู้เล่นที่เล่นอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด ได้แก่ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์, มุ้ย-ธีรศิลป์ แดงดา, อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน และตอง-กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ได้มีการพูดคุยกับทั้ง 4 คนแล้วว่าจะไม่เรียกทั้งหมดมาร่วมทีมเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เนื่องจากไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ที่นักเตะทั้ง 4 คนจะอยู่ช่วยทีมได้ตลอด ดังนั้นจะให้โอกาสผู้เล่นใหม่ๆ ได้เข้ามาเล่นเพื่อทดแทน
“การแข่งขันทุกครั้งมีความกดดัน เพราะทุกคนคาดหวังกับผลการแข่งขัน อย่างซูซูกิคัพนั้นแฟนบอลคาดหวังอย่างมาก เราจะทำผลงานให้ดีที่สุด เลือกผู้เล่นที่ดีที่สุด ส่วนเอเชียนคัพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะอยากจะพาทีมไปให้ไกลที่สุดเพื่อเป็นการสร้างความสุขให้กับแฟนบอลไทย
“ผู้เล่นในทีมชุดเอเชียนเกมส์มีผลงานที่ดีหลายคน แต่ปัญหาของผู้เล่นเหล่านี้คือเรื่องของการรักษาฟอร์มการเล่น เพราะบางคนเล่นดีและเล่นแย่สลับกันไป ดังนั้นต้องดูอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังต้องผสมผสานนักเตะดาวรุ่งและตัวหลักให้สมดุลกัน”
นอกจากนี้ราเยวัชยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตัวผู้เล่นว่ามีเอเจนต์เป็นคนแนะนำนักเตะให้ติดทีมชาตินั้น ทางราเยวัชก็ยืนยันว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้
“เป็นครั้งแรกที่ผมเคยได้ยินเรื่องการมีเอเจนต์แนะนำนักเตะติดทีมชาติ ตลอดการทำงานทีมชาติมา ผมไม่เคยให้เอเจนต์คนใดมีผลต่อการตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่น โค้ชเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลงานทั้งหมด ดังนั้นก็จะต้องเลือกตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดมาติดทีมชาติไทย”
ขณะที่ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ได้เปิดเผยว่าโปรแกรมทีมชาติไทยจากนี้จะลงแข่งขันเกมฟีฟ่าเดย์ 2 แมตช์ในเดือนตุลาคมกับทีมชาติฮ่องกงและทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ก่อนจะลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 8 นัด
หลังจากนั้นจะอุ่นเครื่องในบ้าน 1 แมตช์ และที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีก 1 แมตช์ เพื่อเตรียมเข้าสู่การแข่งขันเอเชียนคัพ เท่ากับว่าทีมชาติไทยชุดใหญ่จะมีรายการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น ทำให้ราเยวัชเข้ามาคุยรายละเอียดเรื่องการเก็บตัวฝึกซ้อม และจะเรียกนักเตะเก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ โดยทางสมาคมฯ ได้วางเป้าหมายไว้ที่การป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพและผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในศึกเอเชียนคัพให้ได้
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิคัพ 2018 ฟุตบอลทีมชาติไทยอยู่สาย B ร่วมกับอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ติมอร์ เลสเต และจะประเดิมเกมแรกออกไปเยือนติมอร์ เลสเต ในวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ขณะที่ฟุตบอลเอเชียนคัพ ทีมชาติไทยอยู่ในสาย A ที่มีเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย และบาห์เรน โดยนัดแรกจะพบกับอินเดียในวันที่ 6 มกราคม 2562
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์