ใครที่ติดตามรายการ CHUANG 2021 หรือ CHUANG ASIA คงจะพอคุ้นเคยกับชื่อของ MIKA วง INTO1 กันอยู่บ้าง เพราะเขาเคยฝากเสียงเพลงเพราะๆ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมไว้หลายโชว์ในรายการ ส่วนในวงการแฟชั่นเขาก็ยังเคยไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ เดินบนรันเวย์ หรือปรากฏตัวในงานประกาศรางวัลด้วยลุคที่น่าจดจำหลายต่อหลายครั้ง และยิ่งภาพลักษณ์ของเขาที่ดูโดดเด่นด้วยความเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกันที่มาพร้อมกับทรงผมสุดเท่ ก็ยิ่งทำให้เขาเป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้นไปอีก
นอกเหนือไปจากโมเมนต์ที่น่าจดจำเหล่านั้น ในตอนนี้ MIKA เริ่มต้นเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวในฐานะ ‘mikah’ พร้อมปล่อยอีพีอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า PRETTY LIES ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งอัลบั้มนี้ทำให้ได้เห็นมุมมองการทำงานศิลปะของเขาในฐานะนักร้องและศิลปินที่เติบโตไปอีกขั้น และผลงานเพลงของเขาก็ยังคงชวนให้แฟนเพลงอินตามไปกับน้ำเสียงและท่วงทำนองดนตรีของเขาได้เสมอ
ล่าสุด THE STANDARD POP มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับ mikah เกี่ยวกับเบื้องหลังผลงานเพลงในอีพีอัลบั้มนี้ ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ตลอดจนเป้าหมายต่อไปของเขาในฐานะศิลปิน ซึ่งเขาฝากข้อความมาถึงแฟนๆ กีวี่ชาวไทยด้วย
แรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังอีพีอัลบั้ม PRETTY LIES คืออะไร
แรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังอัลบั้มนี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตผมตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบากที่ต้องเผชิญ หรือมุมมองที่ผมมองโลก ก็คือชีวิตทั่วๆ ไปของเรา ซึ่งผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มนี้
ผมไม่ได้มีคอนเซปต์ที่ชัดเจนมากนักในตอนที่เขียนเพลงต่างๆ ในอัลบั้ม แต่แค่คิดในใจว่าอยากจะเขียนอะไรที่จริงใจกับตัวเองในเวลานั้น ซึ่งผมก็เขียนเพลงทุกๆ วันในแบบที่ไม่ได้มีแนวคิดอะไรอยู่ในใจ จนกระทั่งตอนที่เขียนเพลง CHASING PARADISE นั่นแหละ ผมถึงได้รู้ว่าเพลงนี้สะท้อนถึงตัวตนของผม และเป็นแนวคิดหลักสำหรับอีพีอัลบั้มนี้ได้ด้วย
ผมรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นมากว่าเพลงรัก เพราะเพลงนี้บอกได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับชีวิตในเวลานั้น และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงคำว่า Pretty Lies (คำโกหกที่แสนหวาน) เหมือนกับเนื้อเพลง CHASING PARADISE ที่ร้องว่า ‘So beautiful but pretty lies’ และผมคิดว่าก็ดูเป็นชื่ออัลบั้มที่เจ๋งดีนะ
แล้วคำว่า Pretty Lies ก็เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา ในความหมายที่ว่าเป็นคำโกหกและเป็นการโกหก ดังนั้นผมเลยคิดว่ามันก็เจ๋งนะที่มีสองความหมายได้ด้วย และมันดูสลับซับซ้อนขึ้นหน่อย อะไรเทือกๆ นั้นเป็นดีเทลที่สำคัญสำหรับผมเลย อย่างเช่นอีพีอัลบั้มก่อนหน้านี้ที่ชื่อ bleached อันนี้ก็มีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่เหมือนกัน ผมคิดว่าการที่เราอธิบายอะไรบางอย่างในแบบที่มีชั้นเชิงและมีความหมายเป็นสิ่งที่สำคัญนะ ผมก็เลยใช้เวลาคิดชื่ออัลบั้มนี้อยู่พักใหญ่เลยเหมือนกัน
คุณเคยผ่านการเป็นศิลปินระดับนานาชาติมาแล้ว ทั้งตอนที่อยู่ในวง INTERSECTION จนมาถึงวง INTO1 และตอนนี้ก็เป็นศิลปินเดี่ยว mikah คุณคิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาส่งผลอย่างไรกับวิธีทำงานของคุณในทุกวันนี้
ผมคิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรากลายเป็นเราอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ว่าสิ่งนี้หล่อหลอมวิธีการทำเพลงเท่านั้น แต่หล่อหลอมเราขึ้นมาว่าเราจะเป็นคนอย่างไรด้วย ตอนที่เขียนเพลงในเวลานี้ ผมก็เขียนเกี่ยวกับตัวเอง และในหลายๆ ครั้งผมเขียนย้อนไปถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา และผมก็เขียนถึงอดีตบ่อยครั้งด้วย
ผมยังเชื่อเรื่องโชคชะตาด้วย เพราะผมเชื่อว่าที่มาอยู่จุดนี้ได้ก็เป็นเพราะทุกๆ อย่างที่เคยผ่านมาในชีวิต ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดเลย ถึงแม้ว่าจะเคยมีผลลัพธ์ที่ออกมาแย่ แต่มันก็ถูกลิขิตมาแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ผมเชื่อนะ
ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งวงที่ผมเคยอยู่ หรือทุกๆ ประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นสร้างตัวตนของผมขึ้นมาจริงๆ และสิ่งเหล่านั้นก็ช่วยให้ผมเขียนสิ่งต่างๆ ได้อย่างทุกวันนี้ นั่นเป็นวิธีที่ผมมองชีวิตของตัวเอง ทุกครั้งที่ชีวิตของเราขึ้นหรือลง หรือแม้แต่ตอนที่อยู่ในจุดต่ำสุด ผมก็เชื่อว่าเราจะกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง
คุณมีความสนใจในแฟชั่นมาก ไม่ว่าจะทั้งร่วมงานกับหลากหลายแบรนด์หรือไปแฟชั่นวีคหลายครั้ง คุณคิดว่าแฟชั่นส่งอิทธิพลกับการทำเพลงของคุณไหม
ผมไม่คิดว่าแฟชั่นของผมในตอนนี้จะส่งผลกับการทำเพลง สิ่งที่ผมแสดงออกกับแฟชั่นเป็นการแสดงออกในเชิงภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากการแสดงออกด้วยเสียงเพลง ดังนั้นแฟชั่นก็จะแตกต่างจากเพลงค่อนข้างมาก เพลงของผมจะออกไปทางเศร้า เศร้ามากๆ ด้วย ซึ่งมันจะไม่สอดคล้องกับเรื่องรสนิยมแฟชั่นของผมเท่าไร เพราะแฟชั่นของผมค่อนข้างไปสุดอยู่เหมือนกัน และผมก็จะใส่อะไรแตกต่างออกไปทุกครั้งจนเป็นเหมือนการทดลอง
ฉะนั้นแล้วตอนนี้ก็เลยคิดว่าแฟชั่นคงไม่ส่งผลกับเพลงมากนัก แต่ในอนาคตก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นเรื่องแฟชั่น ผมสามารถทดลองอะไรสนุกๆ ได้ และแฟชั่นก็มอบความมั่นใจให้กับผมเยอะเลย เช่นเดียวกันกับดนตรี ที่ตอนนี้ผมก็กำลังทดลองและกำลังสร้างความมั่นใจให้กับสิ่งที่ทำ ซึ่งเมื่อผมเติบโตมากขึ้น แฟชั่นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำเพลงของผมในระดับหนึ่ง เพราะแฟชั่นก็ทำให้ผมมั่นใจและสามารถแสดงตัวตนออกไปได้เช่นกัน
คุณรู้จักหรือฟังเพลงของศิลปินไทยคนไหนบ้างไหม และคุณอยากจะลองร่วมงานกับศิลปินไทยหรือเปล่า
ผมเคยร่วมงานกับศิลปินไทย James Alyn (เจมส์ อลิน วี อดีตสมาชิกวง HYBS) เราเคยขึ้นแสดงโชว์ด้วยกัน (เทศกาลดนตรี Simple Life Shang Hai) เราคุยเรื่องการทำเพลงด้วยกันบ้าง และเขาก็ส่งข้อความหาเป็นครั้งคราว จึงคิดว่าก็น่าจะมีโอกาสในอนาคตนะ แล้วผมก็รู้จัก MILLI (มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล) จากโชว์รายการที่ไปมา เพราะฉะนั้นก็คงจะพอมีโอกาสที่ผมสามารถคอลแลบกับศิลปินไทยคนอื่นๆ ได้ หวังว่าผมจะมีโอกาสได้ทำแบบนั้นในอนาคตนะ
ภาพ: alynwee / Instagram
ในฐานะที่คุณเป็นศิลปิน คุณคิดว่าโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มต่างๆ สร้างความท้าทายและโอกาสต่างๆ ให้กับคนทำเพลงไหม
พอเป็นเรื่องโอกาส ผมก็คิดว่าโซเชียลมีเดียเป็นโอกาสครั้งใหญ่เลยนะ คือตัวของผมอยู่ที่นี่ แต่ผลงานของผมสามารถไปถึงผู้คนทั่วโลกได้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย มันเป็นปัจจัยสำคัญเลยที่ช่วยให้ผมได้ปล่อยเพลงและสื่อสารไปยังแฟนๆ ทั่วโลก แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยได้มากจริงๆ
ผมคิดว่าโซเชียลมีเดียคงไม่ใช่เรื่องท้าทายสักเท่าไร เพราะว่าสิ่งนี้ให้ผลลัพธ์เชิงบวกมากกว่าเชิงลบ และผมก็รู้สึกขอบคุณโซเชียลมีเดียมากที่ทำให้ผมมีโอกาสพูดคุยออนไลน์ได้แบบนี้ ผมไม่ต้องเดินทางไปหลายๆ ที่ทั่วโลกสำหรับการโปรโมต และนั่นก็ช่วยพวกเราได้มากเลย
ภาพ: mikah / Instagram
เป้าหมายของศิลปิน mikah ในอีก 5 ปีข้างหน้าคืออะไร
ผมหวังว่าจะสามารถเขียนเพลงที่เป็นตัวของตัวเองและส่งต่อเพลงออกไปแบบนี้ได้ตลอด นอกเหนือจากนั้นแล้วผมก็อยากจะลองสำรวจมุมมองเรื่องความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องงานภาพ เพื่อแสดงออกว่าผมรู้สึกอย่างไร และจะได้มีโอกาสลองทำอะไรที่ครีเอทีฟมากขึ้นทั้งในเชิงภาพและเสียง
ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนหนึ่ง ผมอยากจะผลักดันให้ตัวเองทำได้หลายสิ่งหลายอย่าง การเขียนเพลงและสร้างโปรเจกต์ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าต้องทำสิ่งเหล่านี้อย่างไร ผมเรียนรู้ว่าเรามีวิธีมองหาสไตล์และความรู้สึกในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีไหนบ้าง และผมก็หวังว่าจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ต่อไปได้ นั่นแหละคือเป้าหมาย
ฝากข้อความถึงกีวี่ชาวไทย
ขอบคุณมากที่คอยสนับสนุนและฟังเพลงใหม่ในอีพีอัลบั้มนี้ ผมมีความสุขและตื่นเต้นมากๆ แล้วผมเองก็ได้เห็นแฟนๆ ชาวไทยพูดถึงอัลบั้มนี้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นแล้วผมก็อยากขอบคุณสำหรับความรักที่พวกคุณมอบให้ผมนะ