Michael Burry ได้ออกมาคาดการณ์ตลาดขาลงอีกครั้ง เขากล่าวว่า ภาวะตลาดขาลงจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อผู้คนเลิกเป็นเจ้าของหุ้นเทคโนโลยี คริปโตเคอร์เรนซี และ Non-Fungible Token (NFT) และยังคาดการณ์ว่า ปรากฏการณ์ ‘Bullwhip Effect’ กำลังจะเกิดขึ้นในภาคการค้าปลีก จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ยและนโยบาย QT
ปรากฏการณ์ ‘Bullwhip Effect’ กำลังจะเกิดขึ้น
Michael Burry กล่าวใน Twitter เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 มิถุนายน) ว่า ปรากฏการณ์ Bullwhip Effect กำลังจะเกิดขึ้นในภาคการค้าปลีก จนทำให้ Fed ต้องเปลี่ยนทิศทางอัตราดอกเบี้ยและนโยบาย QT
Bullwhip Effect หรือปรากฏการณ์แส้ม้า คือความผันผวนของความต้องการซื้อในซัพพลายเชน ตั้งแต่ซัพพลายเออร์, บริษัทผลิต, ผู้ค้าส่ง, ผู้ค้าปลีก และลูกค้า ส่งผลให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลนหรือล้นตลาด เพราะไม่สามารถรับรู้ความต้องการที่แท้จริงได้
เขายังคาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของผู้บริโภคที่เกินกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงคริสต์มาส การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะตกต่ำ และผู้ค้าปลีกจะเต็มไปด้วยสินค้าคงคลังส่วนเกินในช่วงคริสต์มาสอีกด้วย
Michael Burry เป็นที่รู้จักหลังประสบความสำเร็จในการเดิมพันตลาดที่อยู่อาศัยก่อนวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008-2009 เขาเป็นตัวละครหลักในหนังสือ The Big Short ของ Michael Lewis ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
ตลาดจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อผู้คนเลิกสนใจหุ้นเทค คริปโต และ NFT
Michael Burry กล่าวว่า ภาวะตกต่ำของตลาดอาจสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อผู้คนเลิกถือครองหุ้นเทค คริปโต และ NFT
เขาเปิดเผยว่า การที่นักลงทุนเลิกให้ความสนใจอย่างกว้างขวางจะเป็นสัญญาณของจุดต่ำสุด เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ผ่านมาในปี 2002 และ 1932
ก่อนหน้านี้ Michael Burry พุ่งเป้าไปที่ Bitcoin โดยเผยว่า สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับหุ้นเทคที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาต้องการจะสื่อว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่มีทิศทางขาลงคล้ายคลึงกับดัชนีตลาดหุ้น เขายังเคยกล่าวว่า Bitcoin เป็น ‘ฟองสบู่เก็งกำไร’ โดยเปรียบเทียบการเติบโตของคริปโตกับดอทคอมและฟองสบู่ที่อยู่อาศัยว่า นี่อาจเป็นความผิดพลาดในการลงทุนอย่างมหันต์
การคาดการณ์ของ Michael Burry มักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเสมอ แม้เขาจะประสบความสำเร็จจากการเดิมพันฟองสบู่ที่อยู่อาศัยในช่วงปี 2008 และการซื้อหุ้น GameStop ก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2021 อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ถูกเสมอไป เพราะในปี 2021 เขาได้เดิมพันขาลงในหุ้น Tesla โดยการซื้อ Put Options มูลค่า 530 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมองว่า มูลค่าหุ้น Tesla สูงเกินจริง แต่ก็ได้ปิดสถานะในภายหลัง โดยยอมรับว่า เป็นการเทรดที่ผิด เพราะบริษัทเติบโตเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างมาก แล้วคุณล่ะคิดว่าการคาดการณ์ของเขาเกี่ยวกับตลาดคริปโตถูกหรือไม่
อ้างอิง:
- https://markets.businessinsider.com/news/stocks/big-short-michael-burry-tech-stocks-crypto-nft-recession-christmas-2022-6
- https://markets.businessinsider.com/news/currencies/big-short-michael-burry-krugman-cuban-crypto-price-market-crash-2022-6
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP