วานนี้ (6 กรกฎาคม) คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และ เคน แม็กคัลลัม อธิบดีหน่วยความมั่นคงแห่งชาติของอังกฤษ (MI5) ได้เตือนผู้นำทางธุรกิจถึงภัยคุกคามจากรัฐบาลจีน ระหว่างการแถลงข่าวร่วม ณ เทมส์เฮาส์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ MI5 ในกรุงลอนดอน โดยระบุว่าทั้งสองประเทศเผชิญความเสี่ยงจากจีนอย่างมากในหลายๆ ด้าน
เรย์กล่าวกับผู้ที่มาร่วมประชุม ซึ่งเป็นบรรดาผู้นำภาคธุรกิจและเจ้าหน้าที่อาวุโสจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งว่า จีนถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ตลอดจนประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ และการแทรกแซงเข้ามาในภาคการเมือง
“เรารับรู้มาตลอดว่ารัฐบาลจีนเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่รุนแรงที่สุดต่อทั้งภาคเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของเรา ผมใช้คำว่า ‘ของเรา’ เพราะหมายถึงทั้งสองประเทศ (สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ) ตลอดจนพันธมิตรในยุโรปและประเทศอื่นๆ” เรย์กล่าว
“ผมต้องการชี้แจงให้ชัดเจนว่า รัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นภัยคุกคามที่เรามุ่งเน้นตอบโต้ ไม่ใช่ประชาชนชาวจีน และแน่นอนว่าไม่ใช่ผู้อพยพชาวจีนในประเทศของเรา” เรย์กล่าวเสริม พร้อมเน้นด้วยว่า แม้แต่ชาวจีนเองก็มักตกเป็นเหยื่อของการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายจากรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ FBI ยังกล่าวด้วยว่า หากจีนใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวัน ก็อาจก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางธุรกิจครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา และเตือนว่าแม้การทำธุรกิจในจีนจะน่าดึงดูดใจ แต่ต้องยอมรับว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อภาคธุรกิจในโลกตะวันตกมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะรัฐบาลจีนจ้องที่จะขโมยเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ โดยใช้ชุดเครื่องมือที่หลากหลาย
ด้านแม็กคัลลัมระบุว่า ขณะนี้ MI5 มีภารกิจสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2018 โดยประเด็นที่น่ากังวลคือปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพราะจีนมีความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี การวิจัย และความได้เปรียบในเชิงพาณิชย์ระดับชั้นนำของโลก
“พรรคคอมมิวนิสต์จีนสนใจในระบอบประชาธิปไตย สื่อ และระบบกฎหมายของเรา น่าเสียดายที่จีนไม่ได้อยากเอาอย่างเรา แต่ต้องการใช้เพื่อหาผลประโยชน์” แม็กคัลลัมกล่าว
แม็กคัลลัมได้กล่าวถึงกรณีที่ MI5 ออกคำเตือนรัฐสภาอังกฤษเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการกระทำของ คริสทีน ลี ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนสายลับของจีนที่เข้ามาสานสัมพันธ์กับสมาชิกรัฐสภาโดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝง โดยระบุว่า ปฏิบัติการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีโอกาสเข้าแทรกแซงการเมืองอังกฤษได้ในภายภาคหน้า
สำหรับในสหรัฐฯ ผู้อำนวยการ FBI กล่าวว่า รัฐบาลจีนแทรกแซงการเลือกตั้งของสภาคองเกรสในนิวยอร์กโดยตรงในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เพราะไม่ต้องการให้ผู้สมัครที่เป็นนักวิจารณ์และอดีตผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินได้รับเลือก
เรย์กล่าวว่า จีนกำลังพยายามถอดบทเรียนจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งรวมถึงแนวทางที่จะหลบเลี่ยงไม่ให้ประเทศของตัวเองถูกคว่ำบาตร และหากจีนตัดสินใจรุกรานไต้หวันเข้าจริงๆ ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจจะทวีความรุนแรงมากกว่าที่เกิดขึ้นในปีนี้ และการลงทุนของชาติตะวันตกในจีนจะตกเป็น ‘ตัวประกัน’ ขณะที่ซัพพลายเชนจะหยุดชะงัก
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาทำให้ผมเชื่อว่าจีนจะลดความสนใจเกี่ยวกับไต้หวันลงได้เลย” ผู้อำนวยการ FBI กล่าว
แฟ้มภาพ: Dominic Lipinski / PA Images via Getty Images
อ้างอิง: