MI GROUP เปิดอินไซต์เจาะลึก Gen Z vs Gen Horizon พลังจับจ่ายกำหนดอนาคตเศรษฐกิจไทย
ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วและซับซ้อนขึ้น ทำให้การทำความเข้าใจผู้บริโภคเชิงเจเนอเรชันกลายเป็นกรอบคิดสำคัญของนักการตลาด โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัย ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ก็เริ่มมีบทบาทเป็นผู้กำหนดเทรนด์การบริโภคอย่างชัดเจน
งานวิจัยล่าสุดของ MI LEARN LAB ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ MI GROUP รายงานว่า แนวโน้มประชากรของประเทศไทยในปี 2025 Gen Z จำนวนประชากรทรงตัวและเริ่มลดลง ส่วน Gen X กำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดดและเป็นกลุ่มวัยเกษียณที่มีความสามารถในการใช้จ่ายสูงสุดในตลาด
โดยประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจ Gen Z อยู่ที่ 20% มากถึง 2.6 ล้านล้านบาทต่อปี ส่วน Gen Horizon หรือ ผู้ใหญ่ที่มีอายุประมาณ 35–54 ปี อยู่ที่ 25% มากถึง 5.0 ล้านล้านบาทต่อปี และคาดว่าในอีก 5-7 ปีข้างหน้า Gen Z จะมีกำลังซื้อสูงขึ้น และเป็นพลังในการสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ให้กับตลาดในประเทศไทย สะท้อนจากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์มีบทความที่เกี่ยวกับ Gen Z มากกว่า 2,776 โพสต์ ทำให้นักการตลาดต้องพยายามติดตามความเคลื่อนไหวของ Gen Z มากขึ้นกว่าเดิม
วรินทร์ ทินประภา Chief Growth Officer ของ MI GROUP กล่าวว่า ผลการศึกษาของ MI LEARN LAB พบว่า Gen Horizon อายุ 45 – 59 ปี เป็นกลุ่มที่กำลังนิยามวัยเกษียณใหม่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างสมดุลเศรษฐกิจไทย
ขณะที่ Gen Z อายุ 13 – 28 ปี เป็นวัยที่กำลังกำหนดอนาคตเศรษฐกิจไทย ผ่านพฤติกรรมการบริโภคที่สะท้อนตัวตน โดย Gen Z คือกลุ่มที่แบรนด์ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าเพื่อใช้ แต่ซื้อเพื่อแสดงตัวตน ซื้อเพื่อสร้างคุณค่า และมีแรงจูงใจแตกต่างกันไป เช่นวัยรุ่น Gen Z 45% สนใจศัลยกรรมและอีก 53% สนใจด้านการแต่งตัวเพื่อให้โดดเด่น
ดังนั้น แบรนด์ต้องสร้างความเข้าใจ มากกว่าเน้นขาย และสร้าง คอมมูนิตี้ ตรงกับ Vibe & Value ซึ่งจะสามารถสร้างความสัมพันธ์และความภักดีต่อแบรนด์ได้ระยะยาว และ MI GROUP เชื่อว่าแบรนด์ที่เข้าใจพลังการจับจ่ายตั้งแต่ Early Force ถึง Future Force จะสามารถยืนหยัดได้ในตลาดอนาคต และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจไทย
ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล