×

ก้าวไกลชี้ กองทัพเรือเตะถ่วง-ตั้งใจล้มกู้เรือหลวงสุโขทัย เผยเขียนของบ 67 มาแล้ว อ้างไม่มีงบไม่ได้

โดย THE STANDARD TEAM
26.02.2024
  • LOADING...
ชยพล สท้อนดี

วันนี้ (26 กุมภาพันธ์) ที่อาคารอนาคตใหม่ ชยพล สท้อนดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. พรรคก้าวไกล แถลง Policy Watch หัวข้อ ‘นิราศ (เรือหลวง) สุโขทัย: จากเรือรบสู่ปะการังเทียม?’ ว่า เรือหลวงสุโขทัยที่อับปางลงตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 พร้อมกับกำลังพลอีก 106 นาย ซึ่งขณะนั้นกองทัพเรือได้เดินเรือออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงานเทิดพระเกียรติพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันประสูติขององค์พระบิดาของกองทัพเรือไทย

 

ชยพลได้ยกการอภิปรายของ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ อดีต สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เคยอภิปรายถึงประเด็นการล่มของเรือหลวงสุโขทัยไว้ว่า ประกอบด้วยปัญหา 3 ประการ คือ 

 

  1. สภาพอากาศ ในวันเกิดเหตุรายงานพยากรณ์อากาศของกองทัพเรือได้รายงานไว้ว่า คลื่นลมจะสูงประมาณ 2.5 เมตร และรายงานของเอกชนระบุไว้ว่า คลื่นจะสูงถึง 6 เมตร ถึงอย่างนั้นหากเรือหลวงสุโขทัยถูกบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามงบประมาณที่ขอไป ก็ไม่มีทางที่จะล่มได้อย่างแน่นอน 

 

  1. สภาพความพร้อมของเรือ เช่น สมอเรือ มอเตอร์ยังมีอาการขัดข้อง มาตรวัดในเรือใช้งานไม่ได้ เครื่องจักรสั่นสะเทือนผิดปกติ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้งานได้ 3 จาก 4 เครื่อง

 

  1. ความผิดพลาดของการสั่งการ ซึ่งจุดที่เรือหลวงสุโขทัยล่มจะใกล้กับท่าเรือบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เหตุใดถึงพยายามเดินเรือกลับไปสัตหีบจนอับปางในที่สุด

 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการซ่อมบำรุงของเรือหลวงสุโขทัย เช่น เรื่องการซ่อมบำรุงแผ่นเหล็กที่ถูกกร่อนจนบางต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งซ่อมไปเพียง 5 จุดจาก 13 จุดที่มีปัญหา แล้วไปซ่อมอีก 10 จุดที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร และมีคิวรอการซ่อมอยู่ถึง 19 รายการ 

 

ชยพลกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนลองคิดดูว่ากองทัพเรือนั้นคิดอย่างไรถึงมีท่าทีขัดแย้งกันไปมาอยู่เสมอ เช่น หลังเกิดเหตุมีการเริ่มกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง และเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 กองทัพเรือได้เริ่มเปิดให้บริษัทได้ยื่นซองประมูลโครงการกู้เรือหลวงสุโขทัยเป็นครั้งแรก ซึ่งผ่านไปเป็นเวลา 2 เดือนหลังจากวันที่เรือล่ม 

 

กองทัพเรือได้แจ้งว่า ผลการสอบสวนมีความคืบหน้าไปกว่า 90% ซึ่งก็คือเสร็จกระบวนการในขั้นตอนของการสอบปากคำพยานทั้งหมดเกือบ 300 คน โดยเหลือเพียงแค่การกู้เรือเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบ ทางกองทัพเรือได้ให้ข่าวว่า คาดว่าจะเริ่มกู้เรือกันได้ในเดือนเมษายนปี 2566 เป็นอย่างช้า 

 

หลังจากผ่านไปกว่า 7 เดือน ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2566 จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร ได้ตั้งข้อสังเกตว่า มีการล็อกสเปกในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ทำให้ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องออกมาขอสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 21 กันยายน 2566 กองทัพเรือก็เริ่มต้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเอกสารไม่ครบ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ค้านสายตาคนรอบข้างมาก จน กมธ.การทหาร ต้องเชิญกองทัพเรือเข้าชี้แจง โดยชยพลตั้งคำถามว่า กองทัพเรือเองก็ย้ำมาตลอดว่าการกู้เรือเป็นภารกิจด่วน แล้วเหตุใดจึงล้มกระดานเสียเอง ทำให้ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่จากการเริ่มยื่นซองกันในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ขัดกับที่กองทัพกล่าวไว้แต่แรกว่าพร้อมเริ่มกู้เรือตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 

 

ชยพลกล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 19 มกราคม 2567 ตนได้เปิดเอกสารจาก JUSMAGTHAI 2 ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาคือ การทวงถามรายงานข้อเท็จจริงในกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง และการเตือนว่าตามสัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกา ก่อนจะให้บุคคลที่สามมายุ่งกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ได้ต้องได้รับคำยินยอมจากรัฐบาลของสหรัฐฯ ก่อน และ JUSMAG ก็ได้ส่งหนังสือมาแจ้งกองทัพเรือไทยให้ทำตามข้อตกลงการใช้อาวุธ โดยส่งหนังสือมาครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 แจ้งให้ส่งรายงานโดยระบุข้อมูลคือ ‘วันที่เกิดเหตุ ข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขข้อผิดพลาดโดยกองทัพเรือ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์’

 

ทางสหรัฐฯ รอคำตอบจากกองทัพเรือไทยมาเกือบปี ซึ่งหมายความว่าตลอด 1 ปีกองทัพเรือเตะถ่วงเรื่องการกู้เรือ และล่าช้าในเรื่องการสรุปข้อเท็จจริงที่ควรต้องชี้แจงให้ประชาชนและประเทศคู่ค้าด้วย 

 

ขณะที่ในวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ผบ.ทร. ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความร่วมมือกับกองทัพเรือสหรัฐฯ ว่าจะร่วมมือกันลงไปสำรวจซากเรือหลวงสุโขทัย ลงไปถ่ายรูปสำรวจเก็บหลักฐาน พร้อมตามหาผู้สูญหายอีก 5 นาย และปลดอาวุธเรือ แต่พอพูดถึงเรื่องการกู้เรือกลับไม่มีระบุว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ จะร่วมการกู้เรือครั้งนี้หรือจะยังคงมีการกู้เรืออยู่หรือไม่ 

 

ทั้งที่กองทัพเรือได้เข้ามาชี้แจงในสภาหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าใน กมธ.การทหาร หรือ กมธ.งบประมาณ 2567 ได้พูดถึงความตั้งใจจริงที่จะกู้เรือ โดยระบุความจำเป็นของการกู้เรือไว้ 3 ข้อ คือ 

 

  1. เพราะซากเรือขวางทางเดินเรือ 
  2. เพื่อตามหาผู้สูญหายอีก 5 นาย 
  3. เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการสรุปข้อเท็จจริง 

 

จึงจำเป็นต้องกู้อย่างเร่งด่วน เพื่อหาความจริงให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ และเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการล่มของเรือหลวงสุโขทัย จึงจะสามารถเปิดรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับประชาชนได้ 

 

“ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเห็นความจริง ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเปิดเผยรายงานได้ เข้าใจได้ว่ากองทัพเรือไทยไม่สามารถกู้เรือได้เอง แต่ไม่เข้าใจตรงที่เมื่อมิตรประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาได้มาถึงที่แล้ว ทำไมให้ช่วยไม่สุดทาง ทำไมถึงจบแค่การปลดอาวุธ แต่ไม่กู้จิ๊กซอว์นี้ขึ้นมา หรือมันเพราะว่าสัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ จะครอบคลุมแค่เฉพาะกับยุทโธปกรณ์ หากมีการปลดอาวุธแล้วก็จะสิ้นสถานะการเป็นยุทโธปกรณ์ในทันที ซึ่งแปลว่า จะกู้หรือไม่กู้ จะรู้หรือไม่รู้ความจริง ก็ไม่มีใครมาบังคับได้อีกแล้ว”

 

ชยพลกล่าวว่า ตนจึงต้องการย้ำว่าการกู้เรือเท่านั้นถึงจะเห็นความจริง ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเปิดเผยรายงานได้ เข้าใจได้ว่ากองทัพเรือไทยไม่สามารถกู้เรือได้เอง แต่ไม่เข้าใจตรงที่เมื่อมิตรประเทศอย่างสหรัฐฯ ได้มาถึงที่แล้ว เหตุใดไม่ให้สหรัฐฯ ช่วยอย่างสุดทาง ทำไมถึงจบแค่การปลดอาวุธ 

 

“หรือเพราะว่าสัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ จะครอบคลุมเฉพาะเมื่อตัวเรือยังดำรงสภาพการเป็นยุทโธปกรณ์ หากมีการปลดอาวุธแล้วก็จะสิ้นสถานะการเป็นยุทโธปกรณ์ทันที ซึ่งแปลว่า จะกู้หรือไม่กู้ จะรู้หรือไม่รู้ความจริง ก็ไม่มีใครมาบังคับได้อีกแล้ว JUSMAG จะไม่ได้ดูแลเรือหลวงสุโขทัยอีกต่อไป ชะตากรรมของเรือหลวงสุโขทัยจะอยู่ในมือของกองทัพเรือไทยเท่านั้น” ชยพลกล่าว

 

ชยพลกล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ท่าทีของกองทัพเรือเองไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะยังกู้เรืออยู่หรือไม่ ขัดกับคำพูดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอให้กองทัพเรือออกมายืนยันให้ชัดว่า สรุปแล้วเราจะได้รู้ความจริงเมื่อใดกันแน่

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสเรียกกองทัพเรือเข้ามาชี้แจงเรื่องนี้ในกรรมาธิการหรือไม่ ชยพลกล่าวว่า เรื่องนี้ยังเพิ่งเริ่ม อาจจะต้องมีการสื่อสารไปถึงกองทัพเรือให้ออกมาชี้แจงถึงความตั้งใจจริงในการกู้เรือว่าจะกู้หรือไม่ 

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า มีโอกาสชงเข้ากรรมาธิการทหารในช่วงใด ชยพลกล่าวว่า อาจจะมีการยกขึ้นมาในสัปดาห์นี้ พร้อมย้ำว่า กองทัพเรือไม่สามารถอ้างได้ว่าติดขัดเรื่องงบประมาณ เพราะมีการของบประมาณในปี 2567 ไปแล้ว จะบอกว่าไม่พอก็เป็นเรื่องที่ตลก ตอนแรกจะจ้างบริษัทภายนอกร้อยเปอร์เซ็นต์ มีการประเมินแล้วว่าใช้เงินประมาณ 2 พันล้านบาท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X