หมายเหตุ: รายงานสถานการณ์ตามเวลาประเทศไทย
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา วัดความรุนแรงได้ 7.1 แมกนิจูด ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 248 ราย
ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปญา นิเอโต (Enrique Pena Nieto) ระบุว่า มีอาคารอย่างน้อย 27 หลังที่พังถล่มลงมา ชาวเมืองเม็กซิโกกว่า 3.8 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว
บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เสียงไซเรนของรถฉุกเฉินแผดดังไปทั่ว ประชาชนหลายคนจำเป็นต้องทำหน้าที่เป็นหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนบ้านของตัวเอง
สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้มีอย่างน้อย 248 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในกรุงเม็กซิโกซิตี้ 117 ราย ใน Morelos 55 ราย ในเมือง Puebla 32 ราย และใน Gerrero 3 ราย
มีรายงานว่ามีเด็กๆ ในโรงเรียน Enrique Rebsamen อย่างน้อย 20 คนที่เสียชีวิตจากเหตุอาคารเรียนถล่ม และสูญหายอีกประมาณ 30 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุด
จากข้อมูลล่าสุดพบว่ามีโรงเรียนอย่างน้อย 209 แห่งในเม็กซิโกที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ 15 แห่งมีความเสียหายอย่างรุนแรง
ด้านกระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนสนามบินในเมืองเม็กซิโกซิตี้ถูกปิด แต่ไม่มีรายงานว่ารันเวย์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ระดับความลึก 51 กิโลเมตร ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่เมือง Puebla ทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก ห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงประมาณ 123 กิโลเมตร แต่สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน เนื่องจากระดับความลึกไม่มาก
อัลลิสัน ชินชา (Allison Chinchar) ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของสำนักข่าว CNN ระบุว่า แผ่นดินไหวที่ลึกลงไปต่ำกว่า 70 กิโลเมตร ถือเป็นแผ่นดินไหวที่มีขนาดตื้น ซึ่งแผ่นดินไหวที่ตื้นมักจะก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุดเมื่อเทียบกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นลึกลงไป แถมครั้งนี้ยังเป็นแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงถึง 7.1 อีกด้วย
ขณะที่ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงประชาชนชาวเม็กซิโกกำลังเข้าร่วมในกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.0 ในปี 1985 ที่คร่าชีวิตชาวเม็กซิโกนับพัน
จูเลียน โดมินกัซ (Julian Dominguez) ชาวเมืองเม็กซิโกเล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงประมาณ 11 โมงเขาได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในย่าน Iztapalapa ที่เขาอาศัยอยู่ ตอนแรกเขานึกว่าเป็นเสียงเครื่องขุดเจาะที่ใช้ในกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 1985 แต่แล้วสัญญาณเตือนภัยก็ยังดังขึ้นอีก
“มันเริ่มต้นแบบช้าๆ” เขาเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังก่อนจะเสริมว่า เมื่อรู้ตัวว่าเป็นแผ่นดินไหวจริงๆ เขาจึงรีบแจ้นออกจากอาคารที่พักอาศัย ก่อนจะเจอกับฝูงชนมากมายที่ลงมารวมตัวกันบนท้องถนน หลายคนในนั้นอยู่ในอาการเสียขวัญ บางคนร่ำไห้ เพราะห่วงเด็กๆ ที่ยังอยู่ในโรงเรียน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาทวีตถึงภัยพิบัติดังกล่าวว่า “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองประชาชนในเม็กซิโกซิตี้ พวกเราจะอยู่เคียงข้างคุณ”
แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในประเทศเม็กซิโก รองจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1985 ที่มีขนาดความรุนแรง 8.0 แมกนิจูด
ภายหลังจากการสั่นไหวในระดับ 7.1 มีรายงานว่ายังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกอย่างน้อย 11 ครั้ง โดยอาฟเตอร์ช็อกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ระดับ 4
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย และน่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจสูงถึง 1,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
14.40 น.
กระทรวงต่างประเทศอังกฤษได้ออกคำแนะนำสำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปเม็กซิโกว่าควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด ขณะที่สถานทูตอังกฤษในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ยังคงปิด และสายโทรศัพท์ยังใช้การไม่ได้เนื่องจากความเสียหายของโครงสร้าง พร้อมให้เบอร์โทร.ฉุกเฉิน กรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ
14.20 น.
Luis Felipe Puente หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเมืองของเม็กซิโก ได้ปรับยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตให้เหลือ 217 คน จาก 248 คน แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากเม็กซิโกซิตี้ 86 คน, Morelos 71 คน, Puebla 43 คน, Edomex 12 คน, Guerrero 3 คน และ Oaxcaca 1 คน ขณะที่เลขาธิการกระทรวงการศึกษาของเม็กซิโก Aurelio Nuno รายงานว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tecnologico de Monterrey เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บมากกว่า 40 คน
Photo: AFP
อ้างอิง :