ทุกคนคงได้ยินคำว่า Metaverse มาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง เพราะช่วงหลังกระแสนี้มาแรงเกินจนแทบทุกสำนักข่าว เพจเฟซบุ๊ก และสื่อต่างๆ พากันออกมาพูดถึงอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งเรื่องการคอลแลบของแบรนด์ต่างๆ กับโปรเจกต์ NFT ในตำนานอย่าง Bored Ape Yacht Club การซื้อที่ดินมูลค่ามหาศาล รวมไปถึงการที่ดาราดังๆ หันมาสนใจสิ่งนี้ แต่สื่อส่วนใหญ่ยังพูดถึง Metaverse ในแง่บวกว่ามันเป็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ที่จะมาเปลี่ยนโลกของเรา ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่มีใครรู้ว่าความหมายที่แท้จริงของมันว่าคืออะไรกันแน่ หรือเคยได้สัมผัสมันจริงๆ
ความจริงคืออะไรกันแน่? เทคโนโลยีใหม่นี้จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้จริง หรือที่แท้ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ากลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อล้างสมองคนทั่วไปให้หลงเชื่อบริษัททุนนิยมที่อยู่เบื้องหลัง เพราะเมื่อมีข่าวออกมา มูลค่าเหรียญ ที่ดิน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง จะราคาพุ่งขึ้นสูงชนิดว่ามูนในชั่วข้ามคืน เช่น ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา แอปเกม และแว่น Oculus Quest 2 (เพิ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Quest) ก็ขายดิบดีเป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตอันดับ 1 ใน Apple Store ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลพวงมาจากวิดีโอโฆษณาซึ่งเป็นไวรัลของ Mark Zuckerberg และการตลาดอื่นๆ
Horizon Worlds
จริงอยู่ที่โลก Metaverse นั้นเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อนทางภาพลักษณ์และธุรกิจ แต่มันก็อาจเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่เพื่อนำพาเราไปสู่โลกดิจิทัลที่เท่าเทียม และให้อิสรภาพกับเราแบบไร้ขีดจำกัด แต่ Metaverse ที่มีอยู่ตอนนี้ยังห่างไกลจากกระแสมาก เพราะโลก Metaverse จากหลายที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้เราทำอะไรได้มากนัก ไม่ว่าจะเป็น Decentraland ที่คนแห่กันไปซื้อที่ดิน Horizon Worlds ของเฟซบุ๊ก หรือเกม Metaverse พิกเซลต่างๆ และนอกจากจะไม่มีกิจกรรมอะไรที่มากนักแล้ว สถานที่เสมือนเหล่านี้ก็แทบจะไม่มีคนเล่นเลยด้วยซ้ำ เราอาจแย้งได้ว่าโปรเจกต์ต่างๆ กำลังถูกพัฒนาและยังไม่ถึงเวลาของมันจริงๆ แต่คอนเซปต์การมีพื้นที่ออนไลน์ที่เชื่อมต่อและเอาไว้ทำกิจกรรมร่วมกันนั้นมีมานานมากในวงการเกม เช่น World of Warcraft, Second Life หรือ Final Fantasy XI ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถทำกิจกรรมที่ ‘ควรจะทำได้’ ใน Metaverse
ดังนั้นความแปลกใหม่ที่ Metaverse สามารถให้ได้จริงๆ คือ 1. การเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มที่ระบบเกมไม่สามารถทำได้ 2. การแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ล่มในภาวะที่คนเล่นเยอะจนเกินไป และ 3. ความเป็น Decentralize หรือความเป็นศูนย์กลางที่ไม่มีใครมีอำนาจเหนือกว่า หรือเคลมการเป็นเจ้าของได้ ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ล้วนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะโดยธรรมชาติแล้วบริษัทเหล่านี้มักจะสถาปนาตัวเองขึ้นมา มากกว่าการจับมือกันเพื่อสร้างผลกำไร และคนที่เป็นเจ้าของ Metaverse จริงๆ คือพวกกลุ่มทุนหนา เช่น Meta, Andreessen Horowitz, Animoca Brands ฯลฯ เหมือนที่ Jack Dorsey ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ เคยทวีตตอบคำถามของ Elon Musk ที่ครั้งหนึ่งเคยถามว่า “Metaverse / Web 3 อยู่ที่ไหน ฉันมองไม่เห็น” ไว้ว่า “มันอยู่สักที่ระหว่าง A กับ Z” ซึ่งแน่นอนว่าเขากำลังหมายถึง Andreessen Horowitz นั่นเอง
เราอาจพิสูจน์ไม่ได้ว่าท้ายที่สุดแล้ว Metaverse จะออกมาในรูปแบบไหน แต่ตราบใดที่ข่าวยังเขียนออกมาโดยที่ไม่มีอะไรมาหนุนจริงๆ หรือผ่านมาแล้วสิ่งนั้นไม่มีความคืบหน้าต่อ มันก็ยังคงเป็นเพียง Stunt การตลาดต่อไป เหมือนกับ ‘ที่ดินดิจิทัลที่แพงที่สุดในประวิติศาสตร์’ ที่ถูกขายไปด้วยมูลค่า 80 ล้านบาท จนตอนนี้ก็ยังไม่มีการพัฒนาหรือมีปฏิสัมพันธ์อะไรได้ เห็นทีกว่าที่วันนั้นจะมาถึง เราอาจต้องรอนานหน่อยแล้ว
อ้างอิง:
- https://www.nytimes.com/2021/10/29/us/politics/andreessen-horowitz-lobbying-cryptocurrency.html
- https://www.wired.com/story/metaverse-land-rush-illusion/
- https://www.wired.com/story/video-games-ahead-of-metaverse/
- https://www.cnbc.com/2021/12/27/metas-oculus-virtual-reality-headsets-were-a-popular-holiday-gift.html
- https://www.polygon.com/22904893/nft-explainer-why-celebrities-buy-bored-ape-yacht-club-jimmy-fallon-paris-hilton
- https://www.techradar.com/sg/news/meta-quest-is-a-mess-of-a-rebrand-we-dont-want-or-need
- https://kotaku.com/facebook-metaverse-horizon-worlds-vr-oculus-quest-2-cha-1848436740