เมแกน มาร์เคิล เป็นอีกคนสำคัญที่ได้ออกมาพูดถึงประเด็น #BlackLivesMatter และการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ผ่านวิดีโอสุทรพจน์สำหรับเด็กนักเรียนมัธยม Immaculate Heart High ในลอสแอนเจลิสที่เธอเคยเรียนมาก่อน
“ฉันไม่ชัวร์ในตอนแรกว่าจะพูดอะไรกับพวกคุณ ฉันอยากพูดในสิ่งที่ถูกต้อง แต่กังวลว่าถ้าพูดอะไรผิดก็จะโดนจับผิดทันที แต่ฉันค้นพบว่าการไม่พูดอะไรเลยคือสิ่งที่ผิดที่สุด เพราะชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ มีความสำคัญ ชีวิตของ บรีออนา เทย์เลอร์ มีความสำคัญ ชีวิตของ ฟิลันโด มีความสำคัญ ชีวิตของ ทามีร์ ไรซ์ มีความสำคัญ และชีวิตของอีกคนมากมายที่เราทั้งรู้ชื่อและไม่เคยรู้ชื่อมาก่อน” เมแกนกล่าว พร้อมพูดชื่อคนผิวสีอีก 3 คนที่เสียชีวิตจากน้ำมือของตำรวจ
“สิ่งที่ได้เกิดขึ้นในประเทศ ในรัฐ และในบ้านเมืองของเรา ที่ลอสแอนเจลิสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องสะเทือนใจอย่างมาก …ฉันยังจำตอนอายุ 11 หรือ 12 ช่วงที่มีเหตุจลาจลที่นี่ มันก็เกิดขึ้นเพราะปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิว ฉันจำได้ตอนนั่งรถกลับบ้านช่วงเคอร์ฟิว และได้เห็นควันในอากาศ ควันที่ออกมาจากตึก และผู้ชายที่อยู่ด้านหลังรถตู้พร้อมปืนของตัวเอง”
เมแกนได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ตัวเองเจอกับเหตุจลาจลครั้งประวัติศาสตร์ที่ลอสแอนเจลิสเมื่อปี 1992 หลังผู้ชายผิวสี ร็อดนีย์ คิง ถูกตำรวจทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้เองก็ถูกอัดวิดีโอและเผยแพร่ออกไป จนทำให้ผู้คนออกมาชุมนุมนาน 6 วัน และมีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมครั้งนั้นถึง 63 คน
เมแกนนับเป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญต่อจุดยืนของคนผิวสี เพราะเธอคือคนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่ได้แต่งงานกับราชวงศ์อังกฤษ และภาพของคุณแม่ผิวสีของเธอ Gloria Ragland ที่งานแต่งงานครั้งประวัติศาสตร์ก็ยังคงตราตรึงใจใครหลายคนจนถึงทุกวันนี้ และนับตั้งแต่เธอได้คบหาเจ้าชายแฮร์รี เรื่องเชื้อชาติของเธอก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สื่ออังกฤษนำมาเล่นอย่างไม่เหมาะสม อีกทั้งยังมีการเหยียดเธอในประเด็นสีผิว แม้จะไม่ได้โจ่งแจ้ง ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่มีการคาดการณ์ว่าเธอและเจ้าชายแฮร์รีได้ตัดสินใจสละฐานันดรศักดิ์การเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษ ก็เพราะทนการคุกคามชีวิตของสื่ออังกฤษไม่ไหว
ภาพ: Ben Birchall – WPA Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: