เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 9 สิงหาคม 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น TU ปรับตัวขึ้น 22.8%MoM สู่ระดับ 22.10 บาท สวนทาง SET Index ที่ปรับตัวลง 4.6%MoM สู่ระดับ 1,552.09 จุด (ข้อมูล ราคา ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%YoY และเพิ่มขึ้น 11%QoQ หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 100 ล้านบาทออกไป กำไรปกติ 2Q64 จะอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%YoY และเพิ่มขึ้น 7%QoQ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจาก Red Lobster ท่ามกลางมาร์จิ้นที่อยู่ระดับทรงตัวจากธุรกิจอาหารทะเล ขณะที่กำไร 2Q64 ที่เพิ่มขึ้น QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล
ด้านยอดขาย 2Q64 ของ TU จะเติบโต 4%YoY เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น เนื่องจากอุตสาหกรรมบริการอาหารในสหรัฐฯ และภูมิภาคเอเชียฟื้นตัวดีขึ้น และยอดขายที่ดีขึ้นในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมากพอที่จะชดเชยยอดขายที่ลดลงในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปจากฐานสูงของปีก่อนในสหรัฐฯ และยุโรป อันเป็นผลมาจากการกักตุนอาหารในช่วงที่โควิดระบาด
อัตรากำไรขั้นต้น 2Q64 คาดว่าจะอยู่ที่ 18.2% ทรงตัว YoY เนื่องจากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น และต้นทุนวัตถุดิบทูน่าอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะถูกหักล้างโดยส่วนผสมของยอดขายที่ให้มาร์จิ้นสูงน้อยลง (ยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นที่ให้มาริ์จิ้นต่ำปรับตัวเพิ่มขึ้น และยอดขายอาหารทะเลแปรรูปที่ให้มาร์จิ้นสูงปรับตัวลดลง)
ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขาย 2Q64 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50bps YoY สู่ 11.7% โดยเกิดจากต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก (คาดว่าจะส่งผลทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น 200-250 ล้านบาทต่อไตรมาส)
สำหรับธุรกิจ Red Lobster ในเดือนมิถุนายน จำนวนร้านอาหาร Red Lobster ทั้งหมดมี 97% ที่เปิดให้บริการนั่งทานภายในร้าน (แต่ลดจำนวนที่นั่งลงเหลือ 50%) ทั้งนี้ใน 2Q64 SCBS คาดการณ์ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster ที่ 150 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุน 702 ล้านบาท ใน 2Q63 ซึ่งเป็นฐานต่ำของปีก่อนอันเป็นผลมาจากการปิดร้านอาหารชั่วคราว แต่แย่ลงจากการขาดทุน 19 ล้านบาทใน 1Q64 เพราะปัจจัยฤดูกาล
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มกำไรปกติตลอดทั้งปี 2564 ของ TU จะเติบโต 11%YoY ซึ่งการเติบโตส่วนใหญ่เกิดจาก 1H64 เพราะการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ Red Lobster จากฐานต่ำในปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากการปิดร้านอาหารในสหรัฐฯ ชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด ส่วนแนวโน้มกำไร 2H64 จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY เนื่องจากมาร์จิ้นในธุรกิจอาหารทะเลไม่เปลี่ยนแปลง และผลการดำเนินงานของ Red Lobster จะอยู่ในระดับทรงตัว