เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q67 ของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567
โดยประเมินได้ว่า TRUE จะรายงานขาดทุนปกติ 354 ล้านบาทใน 1Q67 ปรับตัวดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 702 ล้านบาทใน 4Q66 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขาดทุนสุทธิจะมากกว่าขาดทุนปกติ เนื่องจากคาดว่า TRUE จะบันทึกค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวใน 1Q67 อันเป็นผลมาจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่น่าจะอยู่ที่ 3.19 หมื่นล้านบาท ค่อนข้างทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 3%YoY การแข่งขันทางราคาน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ดังนั้นคาดว่าจะเห็น ARPU ที่ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
สำหรับธุรกิจออนไลน์ รายได้น่าจะเติบโต 5%YoY สู่ 6.1 พันล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากการแข่งขันทางราคาที่ลดน้อยลง โดยรวมแล้วประเมินรายได้จากการให้บริการหลักได้ที่ 4.01 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%YoY ซึ่งสอดคล้องกับเป้าของผู้บริหารที่ 3-4%
สำหรับด้านต้นทุน ต้นทุนบริการน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ที่ 2.34 หมื่นล้านบาท แม้ว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว ค่าใช้จ่าย SG&A น่าจะลดลง 3% QoQ สู่ 6.2 พันล้านบาทจากปัจจัยฤดูกาล
อย่างไรก็ดี กำไรปกติอาจจะพลิกกลับมาเป็นบวกเร็วกว่าคาด ซึ่งก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ว่า TRUE น่าจะรายงานกำไรปกติเป็นบวกใน 2H67 แต่ปัจจุบันเมื่อพิจารณาจากโมเมนตัมผลประกอบการ 1Q27 จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเห็นกำไรปกติเป็นบวกใน 2Q67 และน่าจะส่งผลทำให้ประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.1 พันล้านบาทมี Upside อย่างไรก็ตาม จะทบทวนสมมติฐานอีกครั้งหลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการ 1Q67
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TRUE ปรับขึ้น 11.43% สู่ระดับ 7.80 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.83% สู่ระดับ 1,373.89 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
แม้ว่าเป้าหมายทางการเงินปี 2567 ที่ผู้บริหารให้ไว้จะมีภาพรวมเป็นบวกและพบสัญญาณฟื้นตัวใน 4Q66 แต่ InnovestX Research พบว่า Consensus ยังคงคาดว่า TRUE จะรายงานขาดทุนในปี 2567 ที่ 1.2 พันล้านบาท ขาดทุนปกติที่ลดลง QoQ ใน 1Q67 น่าจะกระตุ้นให้ Consensus ปรับประมาณการผลประกอบการเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ไว้ที่ 1.1 พันล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากขาดทุนปกติ 4.8 พันล้านบาทในปี 2566 เมื่ออิงกับประมาณการของ Consensus จึงเชื่อว่า Story เกี่ยวกับการฟื้นตัวของผลประกอบการยังไม่น่าจะสะท้อนในราคาหุ้นอย่างเต็มที่ และน่าจะส่งผลทำให้ราคาหุ้น TRUE ปรับตัว Outperform ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของรายได้ และคดีฟ้องร้องคัดค้านการควบรวมกิจการ ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญสำหรับ TRUE คือ ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์และการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้า