เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research คาดการณ์เบื้องต้นถึงรายได้ของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ใน 3Q65 ที่ +/-1,400 ล้านบาท เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จาก
- ยอดขายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่องทั้งจากการออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Jele ที่ได้รับการตอบรับดี และ
- ยอดขายจากต่างประเทศที่เติบโต ทั้งจากประเทศที่มีฐานการส่งออกอยู่แล้ว เช่น เวียดนาม และประเทศที่เริ่มการตลาด เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง ที่เริ่มมีคำสั่งซื้อประมาณ 45-50 ล้านบาทต่อเดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย SNNP อยู่ในช่วงของการศึกษาการลงทุนในประเทศแทนการส่งออก โดยอาจใช้มูลค่าการลงทุนประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนเพิ่มเติมในปลายปีนี้
ส่วน Gross Margin ใน 3Q65 ประเมินไว้ที่ระดับประมาณ 27-27.2% ฟื้นตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ จากต้นทุนโดยรวมที่ลดลง ขณะที่ SG&A แม้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดแต่ยังบริหารจัดการได้ ดังนั้นจึงคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิของ 3Q65 จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SNNP ปรับเพิ่มขึ้น 3.05%MoM สู่ระดับ 16.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.36%MoM สู่ระดับ 1,639.45 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
หากรายได้ 3Q65 เป็นไปตามการคาดการณ์ จะส่งผลให้ประมาณการรายได้ของปี 2565 ที่ 4,992 ล้านบาท (เติบโต 15%YoY) มี Upside ประมาณ 5-8% และเพิ่มโอกาสของการทำรายได้ Record High ในปี 2566 ที่เกินกว่า 5,558 ล้านบาท
ทั้งนี้ ใน 2H65 SNNP วางแผนการออกสินค้าใหม่อย่างน้อย 10 SKU ทั้งการปรับแพ็กเกจจิ้งของกลุ่ม Jele รวมถึงการออกรสชาติใหม่ และ Snack ในกลุ่มหนังไก่
ขณะที่ Jele ในกลุ่มของกัญชา และ CBD แม้มีสินค้าพร้อมออกในช่วงปลายปีนี้ แต่ทาง SNNP จะพิจารณาการเปิดตัวเพื่อรอดูความพร้อมและกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งสินค้าทั้ง 9 SKU ของ SNNP ในปัจจุบันที่มีส่วนผสมกัญชาและกัญชงได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research แนะนำ ‘ซื้อ’ SNNP โดยใช้สมมติฐาน PER ที่ 31 เท่า ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 19.40 บาทต่อหุ้น และคาดหวังที่จะเห็นการเปิดธุรกิจเสริมอาหารในปี 2566 เพื่อต่อยอดการเติบโต
ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการบริหารต้นทุนของทั้งแป้งสาลี น้ำตาล และน้ำมันดีเซลในประเทศ รวมทั้งติดตามทิศทางของการขึ้นค่าแรงในปลายปีนี้
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP