เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อคืนนี้ (18 พฤษภาคม) ราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นขานรับประเด็นความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดย Moderna ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพแห่งสหรัฐฯ ได้แถลงถึงผลการทดลองการใช้วัคซีน mRNA เฟส 1 พบว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถสร้างแอนติบอดีให้กับผู้เข้าร่วมการทดลองทั้ง 45 คนได้ ซึ่งผู้เข้าร่วมการทดลองนี้เป็นอาสาสมัครอายุระหว่าง 18-55 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยผลการทดลองครั้งนี้พบว่า ระดับแอนติบอดีของผู้เข้าร่วมการทดลองใกล้เคียงหรือสูงกว่าผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19
สำหรับการทดลองวัคซีนในเฟส 2 Moderna แถลงว่าจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีอาสาสมัครจำนวน 600 คน และการทดลองเฟส 3 จะเริ่มขึ้นช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีอาสาสมัครนับพันคน
ในเบื้องต้น Moderna ระบุว่า หากวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพและปลอดภัย บริษัทจะเริ่มจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวภายในต้นปี 2564 และคาดว่าจะผลิตวัคซีนได้หลายล้านโดสในสิ้นปีนี้ และผลิตได้สูงถึงพันล้านโดสในปีหน้า
กระทบอย่างไร:
เมื่อวานนี้ตลาดการเงินทั่วโลกเกิดภาวะ Risk-on ในขณะที่ Moderna แถลงผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ปรับขึ้น 3.15%DoD สู่ระดับ 2,953.91 จุด
- ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปรับขึ้น 4.40%DoD สู่ระดับ 31.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ราคาทองคำ (Gold Spot) ซึ่งเป็นตัวแทนของสินทรัพย์ปลอดภัย ปรับลง 1.48 %DoD 1,732.32 สู่ระดับ (ราคาปิด ณ 18 พฤษภาคม 2563)
ตลาดหุ้นเอเชีย
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NKY) เพิ่มขึ้น 1.49%DoD
- ตลาดหุ้นฮ่องกง (HSI) เพิ่มขึ้น 1.89%DoD
- ตลาดหุ้นจีน (CSI300) เพิ่มขึ้น 0.85%DoD
- ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับขึ้น 23.42 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.82%DoD สู่ระดับ 1,309.95 จุด โดยหุ้นที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อดัชนี ได้แก่
- บมจ.ท่าอากาศยาน (AOT) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 2.56%DoD มีผลต่อดัชนี 1.99 จุด
- บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.08%DoD มีผลต่อดัชนี 1.48 จุด
- บมจ.ปตท. (PTT) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.39%DoD มีผลต่อดัชนี 1.33 จุด
- บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.78%DoD มีผลต่อดัชนี 1.06 จุด
- บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.07%DoD มีผลต่อดัชนี 0.98 จุด (ราคาปิด ณ 19 พฤษภาคม 2563)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่าพัฒนาการด้านวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ถือว่าเป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดหุ้น รวมถึงยังช่วยคลายความกังวลด้านการแพร่ระบาดได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ในระยะสั้น SCBS มีมุมมองเชิงระมัดระวังต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าพื้นฐานที่ตึงตัวพอสมควร รวมถึงภาพรวมแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าไตรมาส 1/63 ดังนั้นอาจเห็นแรงขายทำกำไรได้ในระยะสั้น โดยประเมินแนวต้านที่ระดับ 1,317 และ 1,327 จุด ขณะที่แนวรับประเมินไว้ที่ระดับ 1,280 และ 1,275 จุด
มุมมองระยะยาว:
ในระยะยาวยังคงต้องติดตามความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มาพร้อมกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยหลังจากรัฐบาลได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- %DoD คือ % การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า
- ภาวะ Risk-on คือ ภาวะที่นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น น้ำมัน) มากขึ้น เกิดจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลจากปัจจัยลบ จึงทำให้นักลงทุนกล้าเปิดรับความเสี่ยงเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ พันธบัตร ทองคำ ที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าในเชิงเปรียบเทียบ ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง พันธบัตรทองคำที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าในเชิงเปรียบเทียบ ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า