เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) รายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 17.5 ล้านบาท ลดลง 57.1%QoQ และ 26.1%YoY โดยการอ่อนตัวหลักๆ เป็นผลมาจากปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดค่อนข้างเยอะใน 2Q และงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า โดย InnovestX Research คาดว่าผลประกอบการ 2Q67 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี
และคาดว่าบริษัทจะกลับมารายงานผลประกอบการที่เติบโต QoQ และ YoY ได้ใน 3Q67 เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณงานภาครัฐที่เริ่มกลับมา ประกอบกับงานภาคเอกชนก็ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นน่าจะช่วยส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นด้วย เนื่องจากต้นทุนของบริษัทในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางด้าน Cybersecurity เป็นในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์
ด้าน Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ราคาหุ้น SECURE ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ 5x PE ปี 2567 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 28x ประกอบกับถ้าดูจากตัวเลขเงินสดในมือ ณ สิ้น 2Q67 นั้นมีอยู่สูงถึง 465 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.5 บาทต่อหุ้น (32.4% ของราคาหุ้น) และ SECURE เป็นบริษัทที่ไม่ได้มีหนี้ ทำให้มองว่าที่ระดับราคาปัจจุบันอยู่ในระดับ Valuation ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไร
SECURE ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 15-20% ในปี 2567 โดยในช่วง 1H67 บริษัทมีการเติบโตของรายได้ที่ 10.6% โดยถ้าอ้างอิงจากเป้าหมายทั้งปีของบริษัทจะหมายความว่ารายได้ในช่วง 2H67 จะเติบโต HoH แสดงว่าผลประกอบการในปี 2567 ที่ได้ทำไว้ที่ 114 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24.3%) อาจจะมี Upside โดยกำไร 1H67 คิดเป็น 51.4% ของทั้งปีที่ประเมิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น SECURE ปรับขึ้น 4.5% สู่ระดับ 13.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.3% สู่ระดับ 1,435.53 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research มองว่าราคาหุ้น SECURE กลับมาสู่จุดที่น่าทยอยซื้อลงทุนอีกครั้งภายหลังจากที่ผลประกอบการของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับมองว่าประมาณการปี 2567 มีโอกาสที่จะเห็น Upside ด้วยเช่นกัน และ Valuation ปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจที่ 5x PE ปี 2567 บนการเติบโตของกำไรที่ 24.3%
ราคาหุ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 10.3% ภายหลังจากราคาหุ้นเผชิญแรงเทขายบนผลประกอบการ 2Q67 ที่ปรับตัวลดลง QoQ และ YoY และเป็นการปรับตัวสวนทางกับ SET index ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 9.8% โดยยังคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ ราคาเป้าหมาย 22 บาทต่อหุ้น อิง 20x PE ปี 2567 โดยปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นคือการกลับมาเติบโตของกำไร 3Q67 ที่คาดว่าจะเป็นการกลับมาเติบโต QoQ และ YoY อีกครั้ง
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการผันผวนของค่าเงินบาทที่อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว การเร่งเบิกจ่ายภาครัฐที่ล่าช้ากว่าคาดอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในส่วนของงานกลุ่มนี้ โดยปกติแล้วรายได้จากงานภาครัฐจะคิดเป็น 25% ของรายได้รวมทั้งหมด
อัปเดตกลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ InnovestX Research เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thestandardwealth