×

ราคาหุ้น SCC ดิ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปี พิษค่าเงินและสงครามการค้า!

โดย SCB WEALTH
09.10.2019
  • LOADING...
Market Focus SCC

เกิดอะไรขึ้น:

นับตั้งแต่วันที่ 1-9 ตุลาคม 2562 ราคาหุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยปรับลงมาแล้วกว่า 6% QTD มาอยู่ที่ระดับราคา 385 บาทต่อหุ้น ซึ่งนับเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยมองว่ามีสาเหตุหลักเกิดจากนักลงทุนกังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการส่งออกของบริษัท ตลอดจนความกังวลเรื่องส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ต่ำลงอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของอุปสงค์ที่เกิดจากสงครามการค้า

 

ขณะเดียวกันฟากฝั่งนักวิเคราะห์หลายสำนักได้ทยอยปรับลดมูลค่าพื้นฐานหรือราคาเป้าหมายของ SCC ลงมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เพื่อสะท้อนผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น และส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ต่ำลงเช่นกัน 

 

โดยล่าสุดพบว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Bloomberg Consensus อยู่ที่หุ้นละ 444.85 บาท ลดลงจาก 473.92 บาท เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2562 ซึ่งการถูกปรับลดราคาเป้าหมายลงเช่นนี้ก็เป็น Sentiment เชิงลบที่กดดันต่อราคาหุ้น SCC

 

กระทบอย่างไร:

เช้าวันนี้ราคาหุ้น SCC ยังคงปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 381 บาท ก่อนปิดช่วงเช้าที่ราคา 385 บาท ลดลง 0.26%DoD เมื่อเทียบกับราคาปิดวันก่อนหน้า และลดลง 9.2%MoM เมื่อเทียบกับราคาปิด 1 เดือนที่ผ่านมา

 

มุมมองระยะสั้น:

เมื่อพิจารณาโครงสร้างกำไรของ SCC กว่า 51% คือ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ รองลงมา คือ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 23% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ 15% ดังนั้นผลการดำเนินงานหลักของ SCC จึงขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้นน้ำ ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก และยังอยู่ในทิศทางขาลง 

 

โดย SCBS ประเมินว่าแนวโน้มข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะยังยืดเยื้อ และไม่น่าจะหาทางออกที่เหมาะสมได้กับทั้งสองฝ่ายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นประเด็นกดดันต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะภาคการผลิต และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์การใช้เคมีภัณฑ์ให้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ขณะที่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอุปทานใหม่ๆ ขึ้น) นอกจากนี้เงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่องยังนับเป็นอีกปัจจัยลบหนึ่งที่จะกดดันให้ผลการดำเนินงานของ SCC มีแนวโน้มอ่อนแอในระยะสั้นนี้

 

มุมมองระยะยาว:

ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ย่อมส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโครงสร้างของผลกำไรว่าพึ่งพาธุรกิจที่มีเสถียรภาพหรือมีความผันผวนมากกว่ากัน ซึ่งในส่วนของ SCC นั้น SCBS ประเมินว่าผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อาจเติบโตในระดับไม่สูงมากนัก ราว 5-9% ต่อปี เนื่องจากยังต้องพึ่งพิงธุรกิจเคมีภัณฑ์เป็นตัวขับเคลื่อนหลักซึ่งยังอยู่ในภาวะขาลงจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอย 

 

อย่างไรก็ดี แผนกระจายความเสี่ยงด้วยการขยายตลาดและพัฒนาธุรกิจหลักอื่นๆ เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นธุรกิจปลายน้ำที่มีกำไรดี รวมทั้งการขยายการลงทุนธุรกิจต่างๆ ในอาเซียน ทำให้คาดหวังว่าองค์กรที่มีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี อย่าง SCC จะสามารถผ่านพ้นวัฏจักรเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงผันแปรนี้ไปได้

 

ข้อมูลพื้นฐาน:

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจได้แก่

  1. ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ ถังเก็บน้ำ และถังบำบัด เป็นต้น
  2. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย เยื่อกระดาษ กระดาษอุตสาหกรรม และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
  3. ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ครบวงจร

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X