เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q64 ของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 28 เมษายน 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลง 2.2%MoM สู่ระดับ 113.50 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 0.8%MoM สู่ระดับ 1,556.56 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 7 เมษายน 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาด PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q64 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 136%QoQ สู่ระดับ 5.9 พันล้านบาท เนื่องจากไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เหมือนกับไตรมาสก่อน และได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดย SCBS คาดว่าราคาขายเฉลี่ย (ASP) จะเพิ่มขึ้น 13%QoQ สู่ระดับ 41.6 USD/BOE โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาก๊าซสูงขึ้น 1%QoQ สู่ระดับ 5.7 USD/mmbtu แต่ SCBS คาดว่าราคาขายเฉลี่ยของก๊าซจะลดลง 17%YoY และเป็นปัจจัยฉุดรั้งให้กำไร 1Q64 ลดลง YoY
สำหรับปริมาณการขาย 1Q64 มีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ที่ 365kBOED จากการเรียกรับก๊าซสูงขึ้นจากโครงการบงกช, contract-4 และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ Sabah-H ซึ่งเริ่มดำเนินงานในเดือนกุมภาพันธ์ และ SCBS คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ปริมาณการขายใน 1Q64 เพิ่มขึ้นสู่ 376 kBOE
สำหรับการดำเนินงานในเมียนมายังไม่ได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมือง เนื่องจากแหล่งผลิตก๊าซอยู่นอกชายฝั่ง และส่วนใหญ่ขายให้กับประเทศไทย แต่โครงการเยตากุน ซึ่ง PTTEP ถือหุ้น 19.32% ต้องระงับการผลิตเนื่องจากอัตราการผลิตลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ทางเทคนิค ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อปริมาณการขายของ PTTEP เนื่องจากแหล่งก๊าซแห่งนี้ขายให้บริษัทเพียง 1kBOED หรือคิดเป็น 0.3% แต่ก็ได้รับการชดเชยจากปริมาณการขายในมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการค้นพบแหล่งปิโตรเลียมแห่งใหม่โครงการ SK405B ในมาเลเซียเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทต้องใช้เวลาราว 2 ปีในการประเมินผลก่อนตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าปริมาณการขายของ PTTEP จะปรับตัวดีขึ้นในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้าจากการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลักๆ มาจากโครงการใหม่ในมาเลเซียและตะวันออกกลาง ขณะที่กลุ่ม OPEC+ ทยอยปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในตลาดเพื่อสะท้อนอุปสงค์ที่ลดลงเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ SCBS เชื่อว่าอุปสงค์น้ำมันจะเติบโตมากเกินพอที่จะหักล้างอุปทานที่สูงขึ้น และกระตุ้นต่อทิศทางราคาน้ำมันซึ่งจะมีผลกระทบเชิง Sentiment ต่อราคาหุ้น PTTEP
SCBS คาด PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 3.35 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 48%YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และปริมาณการขายที่ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือทิศทางราคาน้ำมัน และเงินสดในมือจำนวนมาก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ PTTEP เข้าซื้อกิจการมากขึ้น และจะช่วยหนุนให้ปริมาณการขายสูงขึ้น