×

หุ้นกลุ่มยานยนต์ – Motor Expo: ยอดจองรถ BEV เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

14.12.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

ประเทศไทยจัดงาน Motor Expo 2023 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2566 โดยยอดจองรถประเภท 4 ล้อในงานนี้มีจำนวน 53,248 คัน (เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน) ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญคือ รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% (BEV) ซึ่งมียอดจองราว ~20,000 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 38.4% ของยอดจองรถทั้งหมด เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากสัดส่วน ~14% ในงานเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน และสัดส่วน ~22% ที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 (22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566) 

 

ในขณะที่ยอดจองรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ประเภท 4 ล้อ เพิ่มขึ้น 4% จากงานเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน InnovestX Research เชื่อว่ายอดจองรถ BEV ในประเทศไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้แรงหนุนจากราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น หลังจากค่ายรถต่างๆ เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้รถ BEV ของภาครัฐ รวมถึงมีตัวเลือกมากขึ้นจากแบรนด์รถ BEV ใหม่ๆ จากจีน เช่น Aion และ Changan ที่เพิ่งประกาศลงทุนในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้

 

ทั้งนี้ มองว่ากระแสตอบรับรถ BEV ในตลาดภายในประเทศที่ดี จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยประเทศไทยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในประเทศภายในปี 2573 โดยภายใต้มาตรการสนับสนุนการใช้รถ BEV ค่ายรถยนต์ที่นำเข้ารถ BEV เพื่อจำหน่าย จะต้องผลิตรถ BEV ในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก 

 

ค่ายรถยนต์รายใหม่จากจีน ได้แก่ BYD และ NETA วางแผนเริ่มการผลิตรถ BEV ในปี 2567 ในขณะที่ Aion และ Changan คาดว่าจะเริ่มการผลิตในปี 2569 ทั้งนี้ ในระยะแรก การผลิตรถ BEV ในประเทศไทยจะมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากยอดจดทะเบียนรถ BEV ที่ BYD และ NETA นำเข้ามาระหว่างปี 2565-10M66 อยู่ที่ราว ~32,000 คัน หรือ ~2% ของยอดผลิตรถยนต์ที่คาดการณ์ในปี 2567 (1.97 ล้านคัน)

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ (SETAUTO) ปรับลง 1.37%MoM ราคาหุ้น AH ปรับลง 11.76%MoM ขณะที่ SET Index ปรับลด 1.13%MoM

 

กลยุทธ์และคำแนะนำการลงทุน:

 

ในระยะสั้นมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงยอดขายรถยนต์ในประเทศและยอดส่งออกรถยนต์ อย่างไรก็ดี ปี 2567 จะเป็นปีที่สดใสขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากค่ายรถยนต์ต่างๆ วางแผนเริ่มการผลิตรถ BEV ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีอยู่เดิมจะได้รับคำสั่งซื้อใหม่ และยกระดับการปรับตัวเพื่อรองรับตลาด EV 

 

InnovestX Research ชอบ AH เนื่องจากบริษัทเดินหน้ารุกตลาด EV ชัดเจนกว่าคู่แข่งโดยตรงอย่าง SAT และ STANLY ซึ่งยังไม่มีรายได้จากการผลิตชิ้นส่วน EV อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน AH ให้บริการผลิตชิ้นส่วนขึ้นรูปโลหะ การฉีดพลาสติก และชิ้นส่วนหล่อสำหรับ EV โดยคิดเป็นสัดส่วน ~5% ของยอดขาย บริษัทกำลังพูดคุยกับค่ายรถยนต์หลายราย รวมถึงผู้ผลิต EV จากประเทศจีน เช่น BYD, MG และ Great Wall Motor สำหรับโอกาสที่อาจเกิดขึ้น 

 

นอกจากนี้มองว่า Valuation ของ AH น่าสนใจที่ PE ปี 2566 ระดับ 5.1 เท่า ต่ำกว่าระดับ 7 เท่าสำหรับ SAT และ STANLY และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 2H66 ที่ 4% อย่างไรก็ดี ยังคงให้เรตติ้ง Outperform สำหรับ AH ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 44 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยในปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงที่กำไรของ AH เติบโตตามปกติ)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก และระดับของการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านจากรถ ICE ของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีอยู่เดิม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X