เกิดอะไรขึ้น: เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2562 บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (M) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าบอร์ดบริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท คาตาพัลท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (ถือ 99.99%) เข้าลงทุนในหุ้น บริษัท แหลมเจริญ ซีฟู้ด จำกัด ในสัดส่วน 65% ของทุนชำระแล้ว โดยใช้เงินลงทุน 2,060 ล้านบาท และคาดว่าดีลดังกล่าวนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2562 ทั้งนี้แหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากเงินสดที่มีในกิจการ
กระทบอย่างไร: เช้าวันนี้ราคาหุ้น M เปิดที่ 77.50 บาท ปรับขึ้น 5.4% จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 73.50 บาท และระหว่างวันซื้อขายที่ราคาสูงสุดที่ 79 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาซื้อขายบริเวณ 76.50-77.50 บาท หลังนักลงทุนมองบวกต่อข่าว M เข้าลงทุน 65% ในกิจการแหลมเจริญซีฟู้ด
มุมมองระยะสั้น: SCBS มีมุมมองเชิงบวกต่อดีลนี้ เนื่องจากเป็นการขยายธุรกิจที่ตลาดรอคอยมานานนับตั้งแต่ M เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (15 ส.ค. 2556) โดยเป็นการใช้เงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ไปลงทุนให้ก่อเกิดประโยชน์ ซึ่งคาดจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าการนำเงิน IPO ไปฝากสถาบันการเงินเพื่อรับแค่ดอกเบี้ยดังเช่นหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้หากการตรวจสอบสถานะกิจการแหลมเจริญซีฟู้ด (Due Diligence) ไม่มีประเด็นสงสัยอะไร และจะแล้วเสร็จปิดดีลในเดือนธันวาคม คาดเงินทุนที่ M จะใช้ซื้อกิจการแหลมเจริญซีฟู้ดครั้งนี้จะมาจากเงินสดที่มีในกิจการอยู่ราว 9.7 พันล้านบาท โดยตลาดไม่ต้องกังวลเรื่องเพิ่มทุนและไม่จำเป็นต้องกู้ยืมแต่อย่างใด ดังนั้นจะไม่มีดอกเบี้ยจ่ายมากดดันผลกำไรโดยรวมหลังควบรวม ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ดี
มุมมองระยะยาว: หาก M สามารถควบรวมกับแหลมเจริญซีฟู้ดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ ในระยะยาวคาดว่าจะเกิด Synergy ที่น่าติดตาม เช่น การมีอำนาจต่อรองกับคู่ค้าสูงขึ้น รวมทั้งมีต้นทุนที่ลดลง (เกิดผลประหยัดต่อขนาด: Economies of Scale) จากการใช้บุคลากรและทรัพยากรต่างๆ ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ครัวกลาง โลจิสติกส์ ไอที และพนักงาน Back Office
อีกทั้งด้วยแบรนด์แหลมเจริญซีฟู้ดที่มีจุดแข็งด้านรสชาติและคุณภาพอาหารทะเลที่ดี เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ขณะที่มีสาขาอยู่เพียง 25 สาขา ยังทำให้มองว่า M มีโอกาสขยายสาขาแหลมเจริญซีฟู้ดเชิงรุกในไทยได้อีกมาก ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของผลกำไร M ต่อไปในระยะยาว
สำหรับประเด็นการเข้าซื้อกิจการแหลมเจริญซีฟู้ดถูกหรือแพง รวมทั้งจะส่งผลบวกต่อประมาณการกำไรของ M ขนาดเท่าไรยังยากที่จะประเมิน เพราะปัจจุบันยังไม่สามารถหาข้อมูลผลการดำเนินงานของ บริษัท แหลมเจริญ ซีฟู้ด จำกัด ได้ เนื่องจากปีนี้แหลมเจริญซีฟู้ดมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ อย่างไรก็ดี ด้วยมุมมองผู้บริหาร M ที่ค่อนข้างระมัดระวังอย่างมากในการซื้อกิจการ (สะท้อนได้จากหลายปีที่ผ่านมาที่ไม่เคยเกิดดีล M&A เลย) จึงคาดว่าการทำดีลครั้งนี้ราคาซื้อขายที่เกิดขึ้นน่าจะมีความสมเหตุสมผล
ข้อมูลพื้นฐาน: บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (M) ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีหลายแบรนด์ในไทย กล่าวคือสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านอาหาร ได้แก่ MK Suki Gold/Live 452 สาขา, Yayoi 188 สาขา, Miyazaki 23 สาขา, Hakata 5 สาขา, Le Siam 3 สาขา, Na Siam 1 สาขา, Le Petit 3 สาขา, Harvest 1 สาขา และ Bizzy Box 6 สาขา (สรุป M มีสาขาร้านอาหารในไทยรวม 682 สาขา)
ขณะที่แหลมเจริญซีฟู้ดถือเป็นร้านอาหารทะเลไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั้งจากชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านอาหารแหลมเจริญซีฟู้ดในไทยราว 26-27 สาขา (มี 1 สาขาอยู่ในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสาขาแรก) และเบื้องต้นนับจากนี้แหลมเจริญซีฟู้ดจะเริ่มทยอยปิดร้านในเครือแบรนด์อื่นที่มีสาขาเดียว เช่น The Cape by แหลมเจริญซีฟู้ด, Laem Charoen Home Cafe เพื่อหันมาโฟกัสการพัฒนาและขยายสาขาในธุรกิจร้านอาหารแหลมเจริญซีฟู้ดเป็นหลัก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์