×

MINT – Valuation ระดับต่ำ บ่งชี้ว่าปัจจัยลบสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว

16.09.2022
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

ปัจจุบันราคาหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เทรดที่ Valuation ระดับต่ำ หลังปรับตัวลดลง 16% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ SET ที่ปรับขึ้น 1% และหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มโรงแรมที่ปรับขึ้น 2-11% เพราะถูกฉุดรั้งโดยความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งเป็นฐานรายได้หลักของ MINT ที่ 60% ของรายได้ 2Q65 ผ่านทาง NH Hotel Group (NHH)

 

ราคาหุ้น MINT อยู่ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และปัจจุบันเทรดที่ PB ปี 2566 ระดับ 1.9 เท่า (-1SD) เท่ากับ PB ระดับต่ำสุดในปี 2551-2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทยและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยลบสะท้อนในราคาหุ้นไปค่อนข้างมากแล้ว

 

ด้านผลการดำเนินงานของ NHH คาดจะอ่อนตัวลง QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล แต่ยังคงดีขึ้น YoY โดยอัตราการเข้าพักของ NHH อยู่ที่ราว 65% ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ลดลงจาก ~70% ในเดือนมิถุนายน โดยมีสาเหตุมาจากช่วง Low Season ของการเดินทางท่องเที่ยว แต่สูงกว่า 49% ใน 3Q64

 

MINT เปิดเผยว่ายอดจองห้องพักล่วงหน้าของ NHH ยังดี โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจ (~35% ของแขกทั้งหมด) และคาดการณ์ถึงผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัดจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น (ต้นทุนค่าสาธารณูปโภค = ~4% ของรายได้) ในยุโรป เนื่องจากบริษัททำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเพื่อล็อกราคาและปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ไว้จนถึงสิ้นปี 2565

 

อย่างไรก็ดี InnovestX Research ได้ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหว ซึ่งบ่งชี้ว่าต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น 100% จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำไรปี 2566 ของ MINT ราว 47% แต่บริษัทจะสามารถชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้ด้วยการปรับราคาเพิ่มขึ้น 4%

 

นอกจากนี้ MINT วางแผนเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยใน 2Q65 หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยราว 70% ของ MINT อยู่ในสกุลยูโร และสัดส่วนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 48% ขณะที่หนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ 52%

 

InnovestX Research ได้ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 1% จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำไรปี 2566 ราว 9% ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น MINT จึงกำลังดำเนินการเพิ่มสัดส่วนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็น 56% และลดสัดส่วนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็น 44% ใน 3Q65

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (ณ 16 กันยายน เวลา 12.30 น.) ราคาหุ้น MINT ปรับลดลง 17.78% อยู่ที่ระดับ 27.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.37% สู่ระดับ 1,635.95 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:

InnovestX Research คาดว่าผลประกอบการของ MINT จะปรับตัวดีขึ้น YoY ใน 3Q65 แต่ลดลง QoQ เพราะเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวในยุโรป และคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในยุโรป และการดำเนินงานในประเทศไทยที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากไทยกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง

 

รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่ดีขึ้นในประเทศไทยจากฐานต่ำใน 2Q-3Q64 ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด และในประเทศจีนจากการเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ

 

ขณะที่ผลประกอบการปี 2565 จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยขาดทุนปกติจะลดลงจาก 9.3 พันล้านบาท ในปี 2564 สู่ 2.9 พันล้านบาท ในปี 2565 และจะพลิกกลับมาทำกำไร 5.6 พันล้านบาท ในปี 2566 ก่อนจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดในปี 2567

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ

 

  1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ
  2. ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร

 

อย่างไรก็ตาม MINT เปิดเผยว่าบริษัทได้ลดผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารด้วยการจัดเมนูใหม่ ปรับราคาเพิ่มขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพของพนักงาน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X