เกิดอะไรขึ้น:
ตามข้อมูลที่ได้มาจาก บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บ่งชี้ถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ NH Hotel Group (NHH, กิจการหลักในยุโรปของ MINT) โดยในเดือนเมษายน-พฤษภาคม อัตราการเข้าพักของ NHH อยู่ที่ ~72% (เทียบกับ 69% ใน 2Q65 และ 60% ใน 1Q66 ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่เล็กน้อย)
โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเดินทางเพื่อพักผ่อนในช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในยุโรปและความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องที่ ~150 ยูโรต่อห้อง (เพิ่มขึ้น 17%YoY และ 30%QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 36%) ส่งผลทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) อยู่ที่ ~108 ยูโรต่อห้อง (เพิ่มขึ้น 23%YoY และ 62%QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 30%)
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ EUROCONTROL เที่ยวบินเฉลี่ย 7 วันในภูมิภาคยุโรปในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 7%YoY และ 9%MoM ซึ่งบ่งชี้ว่าการเดินทางในยุโรปยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง MINT กำลังติดตามผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จนถึงขณะนี้บริษัทพบว่ายอดจองห้องพักล่วงหน้าที่ NHH ใน 3Q66 ยังอยู่ในระดับที่ดี
ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม RevPar สำหรับโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของในประเทศไทยอยู่ที่ ~6,345 บาทต่อห้อง (เพิ่มขึ้น 86%YoY แต่ลดลง 30%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 6%) ในขณะที่ RevPar สำหรับโรงแรมในมัลดีฟส์อยู่ที่ ~428 ดอลลาร์สหรัฐต่อห้อง (ลดลง 16%YoY จากฐานสูง และลดลง 51%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล, ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 10%)
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การดำเนินงานในประเทศไทยแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดย SSS ในเดือนเมษายน-พฤษภาคมเติบโต ~10% (เทียบกับ 5.8% ใน 1Q66) ในขณะที่การดำเนินงานในประเทศจีนกำลังฟื้นตัวหลังจากเปิดประเทศ โดย SSS ในเดือนเมษายน-พฤษภาคมเติบโต ~40% (เทียบกับ 15.1% ใน 1Q66)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น MINT ปรับเพิ่มขึ้น 1.47%MoM สู่ระดับ 34.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 1.59%MoM อยู่ที่ระดับ 1,506.84 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
สำหรับ 2Q66 ประเมินกำไรปกติของ MINT ในเบื้องต้นได้ที่ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากกำไรปกติ 1.2 พันล้านบาทใน 2Q65 และฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 647 ล้านบาทใน 1Q66 ทั้งนี้ เมื่ออิงกับพรีวิว 2Q66 ผลประกอบการ 1H66 จะคิดเป็น 35% ของประมาณการกำไรเต็มปี อย่างไรก็ดี ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 6.2 พันล้านบาท ซึ่งบ่งชี้ว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H66
InnovestX Research คงเรตติ้ง Outperform สำหรับ MINT ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42 บาทต่อหุ้น อ้างอิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP ขณะที่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น MINT ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% ดีกว่า SET ที่ลดลง 6% แต่มองว่า Valuation ยังไม่แพงที่ P/E ปี 2566 ระดับ 29 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2555-2562)
ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทางและต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร
