×

HTC – 1Q66 กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น YoY และ QoQ

18.05.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 บมจ.หาดทิพย์ (HTC) รายงานกำไรสุทธิของ 1Q66 ที่ 199 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 92.2%YoY และ 94.5%QoQ) โดยมีรายได้ที่ 2,070 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22.8%YoY และ 19%QoQ) ผลบวกจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเด่นในภาคใต้ และกลยุทธ์ทางการขายทั้ง Pack Mix และ Channel Mix รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Zero Sugar ในหลายรสชาติ 

 

ส่วน Gross Margin เท่ากับ 42% ดีขึ้น YoY แต่อ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ ระดับ SG&A เท่ากับ 31% ลดลงในส่วน % ทั้ง YoY และ QoQ ด้วยรายได้ที่สูงขึ้นและ Efficiency ที่ดีขึ้น 

 

กระทบอย่างไร:

 

วันนี้ (18 พฤษภาคม) ณ 12.30 น. ราคาหุ้น HTC ปรับลดลง 0.66%DoD อยู่ที่ 37.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.06%DoD อยู่ที่ระดับ 1,538.92 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

 

InnovestX Research คงมุมมองที่เป็นบวกและมีการปรับประมาณการรายได้ของปี 2566 เพิ่มขึ้น 2% เท่ากับ 7,669 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9%YoY) สอดคล้องกับเป้าหมายบริษัทที่ตั้งรายได้เติบโต 7-9% ในปีนี้ ด้วยกลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Zero Sugar และกระจายสินค้าไปในพื้นที่ท่องเที่ยวมากขึ้น และการรักษา Market Share ในกลุ่ม NARTD ที่ 26% สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดของประมาณ 70 ล้านบาท  

 

อย่างไรก็ดี ได้มีการปรับเป้า Gross Margin เฉลี่ยของปี 2566 เพิ่มขึ้นจากระดับต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ค่าขนส่งและราคาน้ำมันที่ลดลงและ Economy of Scales ที่เกิดขึ้นจาก 40% เป็น 41.5% ดังนั้นคาดกำไรสุทธิจะทำ New High ได้ที่ 629 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 45%YoY)

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ HTC ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับขึ้นใหม่เป็น 47 บาทต่อหุ้น (เดิมที่ 36 บาทต่อหุ้น) อิงจาก PER ที่ 15 เท่า (+1SD) โดยชอบที่ HTC เป็นหุ้นที่มีสินค้าและแบรนด์ชัดเจน สภาพคล่องทางการเงินแข็งแกร่ง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และให้ตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 5% ต่อปี

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทางและต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร รวมถึงสภาพภูมิอากาศและความเชื่อมั่นผู้บริโภคภายในประเทศที่ยังเปราะบาง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising