×

CPF – 3Q67 กำไรปกติเป็นไปตามคาด

19.11.2024
  • LOADING...
CPF

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ใน 3Q66 และเพิ่มขึ้น 6%QoQ สูงกว่ากำไรสุทธิที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.3-6.8 พันล้านบาท จากกำไรพิเศษจำนวน 669 ล้านบาท (กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพในประเทศไทยและเวียดนามจากราคาสุกรปรับตัวเพิ่มขึ้น)

 

กำไรจากการดำเนินงานปกติ 3Q67 เป็นไปตามคาดที่ 6.6 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 3.5 พันล้านบาทใน 3Q66 แต่เพิ่มขึ้น 15%QoQ การปรับตัวดีขึ้นเกิดจาก

 

  1. อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.4% (จาก 10.8% ใน 3Q66) โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ นำโดยธุรกิจสัตว์บกจากราคาสัตว์บกที่สูงขึ้นและการส่งออกไก่เนื้อที่ดีขึ้นในประเทศไทย ราคาสุกรที่สูงขึ้นในประเทศเวียดนาม และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง

 

  1. ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นสู่ 3.7 พันล้านบาท (เทียบกับ 528 ล้านบาทใน 3Q66) จาก CPALL และ CPAXT (ยอดขายและมาร์จิ้นแข็งแกร่ง), CTI (พลิกกลับมามีกำไรจากขาดทุนในปีก่อน จากราคาสุกรที่สูงขึ้นในประเทศจีนใน 3Q67 และการขายฟาร์มสุกรที่สร้างผลขาดทุนในประเทศจีนออกไปบางส่วนใน 4Q66) และ Hylife (ส่วนแบ่งกำไรดีขึ้น YoY หลังจากขายธุรกิจที่สร้างผลขาดทุนในสหรัฐฯ ใน 3Q66)

 

  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่ลดลง (ลดลง 90 bps YoY) หลังจากบริษัทขายฟาร์มไก่ที่สร้างผลขาดทุนประเทศจีนออกไปบางส่วนใน 4Q66

 

  1. ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง (ลดลง 5%YoY) จากการชำระคืนหนี้บางส่วน และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากธุรกิจในต่างประเทศ

 

ประเด็นสำคัญจากการประชุมต้นทุนอาหารสัตว์ CPF มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อทิศทางต้นทุนอาหารสัตว์ ซึ่งโดยเฉลี่ยในปี 2567 มีการปรับตัวลดลงมา 8-10% และน่าจะลดลงได้อีก 3-5% ในปี 2568 จากผลผลิตข้าวโพดและกากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยและต่างประเทศจากสภาวะการเพาะปลูกที่ดี

 

ขณะที่ราคาข้าวสาลีทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงหากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจบลง ซึ่งจะทำให้จุดคุ้มทุนของฟาร์มเลี้ยงสัตว์สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ลดลงอีก

 

CPF คาดว่าราคาสุกรในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 72-73 บาทต่อกิโลกรัม ในปี 2568 จากอุปทานที่ลดลงจากการที่โรค ASF กลับมาระบาดในบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมในเดือนกันยายน-ตุลาคม การผลิตสุกรในประเทศไทยที่ลดลงสู่ 19.2 ล้านตัวในปี 2568 (จาก 19.4 ล้านตัวในปี 2567) และปริมาณเนื้อสุกรลักลอบนำเข้าที่ลดลง

 

ราคาไก่เนื้อในประเทศในปี 2568 มีแนวโน้มจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปี 2567 จากอุปทานไก่เพิ่มขึ้น จะโดนหักล้างโดยความต้องการนำเข้าที่แข็งแกร่งจากสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น

 

ราคาสุกรต่างประเทศ CPF มองว่าราคาสุกรในประเทศเวียดนามในปี 2568 จะสูงกว่า 6 หมื่นดองต่อกิโลกรัม จากสถานการณ์ขาดแคลนอุปทานหลังจากที่โรค ASF กลับมาระบาดในบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมในเดือนกันยายน-ตุลาคม ราคาสุกรในประเทศจีนในปี 2568 น่าจะอยู่ที่ 15 หยวนต่อกิโลกรัม จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางอุปสงค์ระดับปานกลาง แต่ยังสามารถทำกำไรได้จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงในปีหน้า

 

ประเทศอื่นๆ ในปี 2568 CPF คาดว่าส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจในต่างประเทศจะลดลง YoY จากธุรกิจในสหรัฐฯ (Bellisio) จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ เช่น Thai Cube Box มากขึ้น (หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวในยุโรปก่อนหน้านี้)

 

และธุรกิจสัตว์บกในประเทศอินเดีย จากการเพิ่มสัดส่วนยอดขายอาหารสัตว์และอาหาร โดยลดยอดขายไก่มีชีวิตลงเพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่มีความผันผวน

 

การลงทุน CPF จะยังคงมุ่งเน้นที่การดำเนินงานและสินทรัพย์หลัก และระมัดระวังการลงทุนใหม่ๆ

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น CPF ปรับขึ้น 0.83% สู่ 24.40 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.18% สู่ 1,453.90 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้น:

InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติ 4Q67 จะเพิ่มขึ้น YoY จากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นเพราะราคาสัตว์บกในประเทศและต่างประเทศสูงท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ระดับต่ำ แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เมื่อมองต่อไปข้างหน้า CPF คาดว่าต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่ 4Q67 ต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึง 1H68

 

กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ CPF โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2568 อ้างอิงวิธี SOTP ที่ 29 บาทต่อหุ้น ซึ่งประกอบด้วย 3 บาท สำหรับธุรกิจของ CPF (PE 6-10 เท่าสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และธุรกิจอาหาร) และ 26 บาท สำหรับการถือหุ้นใน CPALL และ CPAXT

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือราคาที่ลดลงจากกำลังซื้อเปราะบางและอุปทานที่มากขึ้น ต้นทุนอาหารสัตว์สูง และเงินบาทแข็งค่า ส่วนปัจจัยเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการน้ำและของเสีย (E) สวัสดิภาพของลูกค้า การบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ และนโยบายเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัย (S)

Cafe Invest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์คุณภาพโดย InnovestX 🚀 คลิกอ่านบทวิเคราะห์ CPF – 3Q67 กำไรปกติเป็นไปตามคาด ได้ที่ https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/cpf-20241118

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X