เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ยังคงเป้าหมายทางการเงินปี FY2565 (เมษายน 2564-มีนาคม 2565) โดยตั้งเป้ารายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่ 1.4 หมื่นล้านบาท รายได้ O&M ที่ 6.3 พันล้านบาท
รายได้ดอกเบี้ยที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าที่ 3.3 พันล้านบาท และรายได้จาก บมจ.วีจีไอ (VGI) ที่ 3.5-4.0 พันล้านบาท โดยการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 (ซึ่งเลื่อนมาจากปี 2565) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะแล้วเสร็จในปี 2565 (ไม่เปลี่ยนแปลง)
สำหรับผลประกอบการ 2QFY2565 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) ที่ประกาศออกมาเมื่อวัน 15 พฤศจิกายน โดย BTS มีกำไรสุทธิที่ 546 ล้านบาท ลดลง 58.3%QoQ และ 24.7%YoY โดยหากตัดรายการพิเศษออกไปกำไรปกติจะอยู่ที่ 571 ล้านบาท ลดลง 44%QoQ และ 24%YoY ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดอยู่ 32% เนื่องจากรายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่ลดลง (เป็นผลมาจากการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างชั่วคราวในเดือนกรกฎาคม)
และรายได้ E&M สำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่ลดลง เนื่องจากการพัฒนาโครงการนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว BTS รายงานรายได้รวม 5.6 พันล้านบาท ลดลง 28.7%QoQ และ 37.7%YoY
โดยใน 2QFY65 บริษัทบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมจำนวน 236 ล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 19 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า) โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้น BTS ปรับตัวลดลง 2.1%WoW สู่ระดับ 9.55 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าจะเห็นกำไรปกติ 3QFY65 (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) ปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของ
- รายได้งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง หลังจากรัฐบาลยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด
- รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา (ผ่านทาง VGI) จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดย VGI เปิดเผยว่าอัตราการใช้สื่อโฆษณาปรับตัวดีขึ้นสู่ ~40% ใน 3QFY65 เทียบกับ ~30% ใน 2QFY65
- ส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF โดยเกิดจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น BTSGIF รายงานจำนวนผู้โดยสารในเดือนตุลาคม ที่ 6.1 ล้านเที่ยวคน เพิ่มขึ้น 35.8%MoM
อย่างไรก็ตาม กำไรปกติ 3QFY65 น่าจะยังคงลดลง YoY เนื่องจากการฟื้นตัวน่าจะยังไม่ถึงระดับ 3QFY64
มุมมองระยะยาว:
SCBS เชื่อว่าแนวโน้มทุกกลุ่มธุรกิจของ BTS อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว และคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับก่อนโควิดได้ในปี FY2566 (เมษายน 2565-มีนาคม 2566)
โดยแนวโน้มธุรกิจระยะยาวยังเป็นบวก เนื่องจากมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่จะเปิดประมูล เช่น รถไฟฟ้า และมอเตอร์เวย์ ซึ่ง BTS มีโอกาสชนะการประมูล นอกจากนี้ยังมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กำไรของบริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP