เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) คาดว่าอัตราส่วนเงินสำรองประกันชีวิตและผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์จะลดลงจาก 113% ในปี 2565 สู่ราว 108% ในปี 2566 และเกือบ 100% ในปี 2567 และปี 2568 เนื่องจากบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงอย่างต่อเนื่อง และโอนกลับสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD) จากกรมธรรม์ที่ครบกำหนดซึ่งจะเพิ่มขึ้นจาก 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 2565 สู่ราวปีละ 3.0 หมื่นล้านบาทในปี 2566-2568 บริษัทจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง (ประกันสุขภาพ, ประกันโรคร้ายแรง, PAR, ยูนิตลิงก์ และ MRTA)
ซึ่งคาดการณ์อัตราส่วนเงินสำรองประกันชีวิตและผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์ตามหลักระมัดระวังที่ 110% ในปี 2566 และ 105% ในปี 2567 และปี 2568
ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่จะเพิ่มขึ้น แต่เบี้ยประกันภัยรับทั้งหมดจะลดลงในปี 2566 โดย BLA ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่เติบโต 17% (เทียบกับ 11% ในปี 2565) แต่คาดว่าเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจะลดลง 6% (เทียบกับ -2% ในปี 2565) และเบี้ยประกันภัยรับทั้งหมดจะลดลง 2% (เทียบกับระดับทรงตัวในปี 2565) สำหรับปี 2566
InnovestX Research คาดการณ์ตามหลักระมัดระวังว่าเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่จะเติบโต 12% เบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจะลดลง 6% และเบี้ยประกันภัยรับทั้งหมดจะลดลง 3%
ส่วน VNB จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่ (VNB) เพิ่มขึ้น 34% สู่ 1.76 บาทต่อหุ้นในปี 2565 โดยได้แรงหนุนจากเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) ที่เติบโต 10% และ VNB Margin ที่เพิ่มขึ้นมาก (เพิ่มขึ้น 7 ppt สู่ 42.6% ตามการคำนวณของ BLA) ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับสมมติฐาน ROI เพิ่มขึ้นสู่ 3.75% จาก 3.25% ในปี 2564
สำหรับปี 2566 บริษัทคาดว่า VNB Margin จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และคาดว่า VNB จะเติบโตในระดับเดียวกับการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ส่วน InnovestX Research คาดว่า VNB จะเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2566 เท่ากับการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรก และคาดว่ามูลค่าพื้นฐานของกิจการ (EV) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจาก VNB ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BLA ปรับเพิ่มขึ้น 5.04%MoM สู่ระดับ 31.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 3.46%MoM อยู่ที่ระดับ 1,612.60 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
InnovestX Research คาดว่า BLA จะรายงานกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 2 ปีติดต่อกันที่ 45% ในปี 2566 และ 36% ในปี 2567 หลักๆ ได้แรงหนุนจากอัตราส่วนเงินสำรองประกันชีวิตและผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์ที่ลดลงจากการโอนกลับสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD) เนื่องจากกรมธรรม์ครบกำหนด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนให้คงเรตติ้ง Outperform สำหรับ BLA ที่ราคาเป้าหมาย 40 บาทต่อหุ้น (1x EV ปี 2566) เพราะคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ VNB จะเพิ่มขึ้นในปี 2566 โดยมีสาเหตุมาจากอัตราส่วนเงินสำรองประกันชีวิตและผลประโยชน์จ่ายตามกรมธรรม์ที่ลดลง VNB Margin ที่ดีขึ้นและ ROI ที่สูงขึ้น
ส่วนปัจจัยความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ แรงกดดันต่อกำลังซื้อของลูกค้าจากภาวะเงินเฟ้อ, ความผันผวนของตลาดทุน, การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ โดยเฉพาะ IFRS17
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หุ้นจีน – ฮ่องกง ดีดรับตัวเลข PMI สูงสุดรอบเกือบ 11 ปี นักวิเคราะห์คาดแรงเทขายสิ้นสุดลงแล้ว
- รีวิว ‘มาตรการกำกับ’ ฉบับเข้มข้น พบ 3 หุ้น ‘BGT, JTS และ TEAMG’ เข้าระดับ 3 ในปีนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศหุ้นเข้า SET50-SET100 รอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี 66