เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต ( BLA ) เปิดเผยว่า มูลค่าของกรมธรรม์ใหม่ในรอบ 1 ปี (1-Year Value of New Business: VNB) ของบริษัทเพิ่มขึ้น 30%YoY สู่ 1.18 พันล้านบาท ใน 1H65 แม้ว่าเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (เบี้ยประกันภัยรับปีแรกบวก 10% ของเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว) ลดลง 27%YoY เพราะได้แรงหนุนจาก VNB Margin ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และ ROI ที่สูงขึ้น
VNB Margin ปรับเพิ่มขึ้นสู่ 56% ใน 1H65 อันเป็นผลมาจากการมีสัดส่วนสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ (29% ของเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ผ่านช่องทางตัวแทนสำหรับ 1H65 เทียบกับ 27% ใน 1H64) และ MRTA (39% ของเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ผ่านช่องทาง Bancassurance สำหรับ 1H65 เทียบกับ 21% ใน 1H64) เพิ่มมากขึ้น
SCBS คาดว่า VNB จะเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2565 โดยใช้สมมติฐานว่าเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีหดตัวลง 5% และ VNB Margin ที่ 50%
ด้าน Combined Ratio มีแนวโน้มลดลง โดย BLA คาดว่าอัตราส่วนเงินสำรองกรมธรรม์ประกันชีวิตและผลประโยชน์ตามกรมธรรม์จะลดลงจาก 115% ในปี 2564 สู่ 112% ในปี 2565 และ 100% ภายในปี 2567 เนื่องจากบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงและโอนกลับสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD) เนื่องจากกรมธรรม์ครบกำหนดจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสู่ราว 3.0 หมื่นล้านบาท ในปี 2566-2567 อัตราส่วนเงินสำรองกรมธรรม์ประกันชีวิตและผลประโยชน์ตามกรมธรรม์อยู่ที่ 116.6% ใน 1H65 BLA คาดว่า Combined Ratio จะลดลง HoH ใน 2H65 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4Q65 เมื่อมีการโอนกลับสำรอง PAD ของกรมธรรม์ที่ครบกำหนด
อย่างไรก็ตาม Combined Ratio สูงกว่าที่ BLA คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ 4Q64 และอาจจะเกิดขึ้นซ้ำอีกในปีนี้ เนื่องจากอัตราเวนคืนกรมธรรม์ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านลบต่อมาร์จิ้นทันที แต่จะส่งผลกระทบด้านบวกต่อกำไรในระยะยาว ขณะที่คาดว่าเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจะลดลงเล็กน้อยราว 1% ในปี 2565 เพราะกรมธรรม์ครบกำหนดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (เพิ่มขึ้น 2-3 พันล้านบาท)
นอกจากนี้ BLA จะได้รับประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในปัจจุบันยังต่ำกว่า Carry Yield จากพันธบัตรที่มีอยู่และพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปีนี้
ซึ่ง SCBS คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและเงินปันผลจะอยู่ในระดับทรงตัวในปี 2565 จากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นปีละ 5 bps ในปี 2566 และ 2567 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ด้วยเช่นกัน
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BLA ปรับตัวลดลง 3.36%MoM อยู่ที่ระดับ 36.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.33%MoM สู่ระดับ 1,643.52 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
SCBS คาดว่าใน 3Q65 กำไรจะลดลง YoY และ QoQ หลักๆ เกิดจากกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง ในขณะที่ 4Q65 กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Combined Ratio ที่ลดลง
ส่วนกำไรปี 2565 คาดจะเติบโต 20% และปี 2566 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 55% โดยเกิดจาก Combined Ratio ที่ลดลงอย่างมาก รวมถึงอัตรากำไรจากการรับประกันที่ดีขึ้น เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ที่ฟื้นตัวดีขึ้น และอัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น
สำหรับปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญคือ การฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในระยะยาว ซึ่งจะเป็นบวกต่อ ROI และส่งผลดีต่อโอกาสขยายธุรกิจใหม่ในระยะยาว