เกิดอะไรขึ้น:
ราคาหุ้น BEM ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 3.1%YTD Outperform SET อยู่ 6.7% InnovestX Research เชื่อว่าราคาหุ้น BEM จะปรับตัว Outperform ตลาดได้อย่างต่อเนื่องในระยะ 3 เดือนข้างหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกหลายปัจจัย:
ปัจจัยกระตุ้น 1: คาดกำไร 1Q67 เติบโตดี YoY โดยคาดว่า BEM จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q67 ที่ 830 ล้านบาท ลดลง 3.5%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 10.7%YoY รายได้จากธุรกิจทางด่วน รถไฟฟ้า และการพัฒนาพาณิชยกรรมยังคงเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้สำหรับธุรกิจรถไฟฟ้า คาดว่าจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อการเติบโตของกำไร โดยต้นทุนที่ต่ำสำหรับธุรกิจรถไฟฟ้าใน 4Q66 เป็นผลมาจากการปรับต้นทุนครั้งเดียว ใน 1Q67 การจราจรทางด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.12 ล้านเที่ยวต่อวัน ลดลง 0.4%YoY
ในขณะที่การเติบโตของการคาดการณ์ทั้งปีอยู่ที่ 2.2% สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 430.4 พันเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 12.9%YoY ในขณะที่การเติบโตของการคาดการณ์ทั้งปีอยู่ที่ 15% หากกำไรสุทธิที่คาดการณ์ใน 1Q67 นี้ถูกต้องจะคิดเป็น 19.3% ของการคาดการณ์ทั้งปี ผลการดำเนินงานจะประกาศในวันที่ 14 พฤษภาคม
ปัจจัยกระตุ้น 2: โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกอาจจะได้ข้อสรุปใน 2Q67 ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกน่าจะได้ข้อสรุปใน 3Q67 พัฒนาการล่าสุดคือ ศาลปกครองสูงสุดได้เริ่มการพิจารณาคดีครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 เมษายน และน่าจะได้เห็นคำตัดสินสุดท้ายหลังจากนี้ราว 1-2 เดือน
เมื่ออิงกับคดีฟ้องร้อง 2 คดีก่อนหน้านี้และคำตัดสินของศาลปกครองกลางในคดีนี้ที่ตัดสินให้ รฟม. เป็นผู้ชนะ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ BEM จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ศาลปกครองสูงสุดน่าจะตัดสินให้ รฟม. เป็นผู้ชนะด้วยเช่นกัน และจะนำไปสู่การเซ็นสัญญาโครงการนี้
ซึ่งประเมินได้ว่าโครงการนี้จะเพิ่ม Upside ให้กับราคาเป้าหมายของ BEM ได้อีก 1.5 บาทต่อหุ้น ในกรณีเลวร้ายที่สุดที่การตัดสินล่าช้า คาดว่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อน Upside จากโครงการนี้
ปัจจัยกระตุ้น 3: โครงการ Double Deck น่าจะเห็นความชัดเจนเร็วกว่าคาด อ้างอิงจากข่าวล่าสุดในหนังสือพิมพ์ รฟม. คาดว่าโครงการ Double Deck น่าจะเห็นความชัดเจนในเดือนมิถุนายน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การปรับลดค่าผ่านทางและการขยายสัมปทานทางด่วน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อราคาเป้าหมายในตอนนี้ได้เนื่องจากมีข้อมูลจำกัด ขณะที่เชื่อว่าโครงการนี้จะสร้าง NPV เป็นบวกให้กับบริษัท หากไม่เป็นเช่นนั้นบริษัทจะต้องชี้แจงเหตุผลกับผู้ถือหุ้น
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BEM ปรับขึ้น 1.23% สู่ระดับ 8.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.60% สู่ระดับ 1,364.27 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ BEM ไว้ที่ Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ 9 บาทต่อหุ้น (8.3 บาทต่อหุ้น จากธุรกิจหลัก และ 0.7 บาทต่อหุ้นจากเงินลงทุนใน TTW และ CKP) ซึ่งราคาเป้าหมายยังไม่รวม Upside อีก 1.5 บาทต่อหุ้น จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก แม้เล็งเห็น Downside เล็กน้อยต่อประมาณการปี 2567 หลักๆ เกิดจากปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนใน 1Q67 ที่ต่ำกว่าคาด แต่ยังคงมุมมองเชิงบวก เนื่องจากปัจจัยบวกกระตุ้นเชิงบวกที่จะทยอยเข้ามาน่าจะมาชดเชยในส่วนนี้ได้
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การฟื้นตัวของปริมาณผู้ใช้ทางด่วนที่ค่อนข้างช้าใน 1Q24 ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญสำหรับ BEM คือความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสาร MRT