เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%YoY และ 27%QoQ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นไปตามคาด แรงขับเคลื่อนที่สำคัญคือรายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ และ EBITDA Margin ที่กว้างขึ้น รายการที่สำคัญในไตรมาสนี้ ดังนี้
- รายได้ 3Q67 อยู่ที่ 2.71 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%YoY และ 10%QoQ เมื่อจำแนกตามสัญชาติ รายได้จากการบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ (26% ของรายได้) เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 8%YoY และ 7%QoQ โดยได้แรงหนุนจากผู้ป่วยจาการ์ตา (เพิ่มขึ้น 47%YoY), จีน (เพิ่มขึ้น 32%YoY) และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เพิ่มขึ้น 29%YoY)
ขณะที่รายได้จากการบริการผู้ป่วยชาวไทย (74% ของรายได้) เติบโต 6%YoY และ 11%QoQ เมื่อจำแนกตามสถานที่ตั้ง รายได้จากโรงพยาบาลนอกกรุงเทพฯ เติบโต 10%YoY (เติบโตสูงกว่าในกรุงเทพฯ ที่เติบโต 4%YoY) โดยคิดเป็น 46% ของรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลทั้งหมด
- EBITDA อยู่ที่ 25.2% ใน 3Q67 เพิ่มขึ้นจาก 24.9% ใน 3Q66 และ 22.3% ใน 2Q67 จากอัตราการครองเตียงที่สูงขึ้นที่ 77% ใน 3Q67 เพิ่มขึ้นจาก 76% ใน 3Q66 และ 62% ใน 2Q67
กระทบอย่างไร:
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ราคาหุ้น BDMS ปรับขึ้น 8.0% สู่ 27.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.86% สู่ 1,457.51 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
กำไร 9M67 คิดเป็น 72% ของประมาณการกำไรเต็มปี InnovestX Research ยังคงประมาณการกำไรไว้เหมือนเดิม โดยคาดว่ากำไรปกติของ BDMS จะเติบโต YoY อย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ โดยจะอัปเดตรายละเอียดเพิ่มเติมหลังการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 19 พฤศจิกายน
BDMS เป็นหุ้นเด่นของ InnovestX Research ในกลุ่มการแพทย์ โดยแนะนำ Outperform และปรับฐานที่ใช้ประเมินราคาเป้าหมายเป็นสิ้นปี 2568 (จากสิ้นปี 2567) และราคาเป้าหมายที่คำนวณได้จากวิธี DCF ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยคงราคาเป้าหมายที่ 36 บาทต่อหุ้น (WACC ที่ 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจทำให้เกิดการชะลอการรักษาโรคที่ไม่เร่งด่วน และความไม่สะดวกของผู้ป่วยต่างชาติที่จะเดินทางมารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย อย่างไรก็ดี InnovestX Research มองว่าความเสี่ยงนี้น่าจะลดทอนลงได้ เนื่องจาก BDMS มีฐานรายได้ขนาดใหญ่จากผู้ป่วยชาวไทย ในขณะที่รายได้จากการให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติมีการกระจายตัว
ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BDMS นำระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
อ่านบทวิเคราะห์ InnovestX Research: BDMS – 3Q67: กำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามคาด: https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/bdms-20241113