เกิดอะไรขึ้น:
ภาพรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นบวก บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ยังคงเป้ารายได้ในปี 2566 ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งบ่งชี้ว่า รายได้จะปรับตัวดีขึ้นใน 2H66 เทียบกับ 5.5 พันล้านบาทใน 1H66 โดย BCH พบว่า แนวโน้มรายได้แข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และคาดว่ารายได้ใน 3Q66 จะเติบโต QoQ (แต่ลดลง YoY เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากบริการโควิดบางส่วนในปีที่ผ่านมา)
โดยได้รับการสนับสนุนจาก
- จำนวนผู้ป่วยคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
- รายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น (โดย BCH ตั้งเป้าไว้ที่ 2.0 พันล้านบาทในปี 2566 เทียบกับ 935 ล้านบาทใน 1H66) โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง, เมียนมา, กัมพูชา และ สปป.ลาว
- การปรับค่าบริการโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ~5% สำหรับผู้ป่วยที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลเองตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และการปรับอัตราเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขึ้น 10% (จาก 1,640 บาทต่อคนต่อปี สู่ 1,808 บาท) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤษภาคม
โรงพยาบาลใหม่มีการดำเนินงานดีขึ้น โดยผลขาดทุนลดลง โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์) รายงาน EBITDA เป็นบวกรวม 15 ล้านบาทใน 2Q66 ฟื้นตัวจากขาดทุน EBITDA ที่ 8.3 ล้านบาทใน 1Q66 โดย BCH คาดว่าโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่งนี้จะคุ้มทุนที่ระดับกำไรสุทธิในอีก 1.5-2 ปี
นอกจากนี้คาดว่าผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงใน 2H66 โดย BCH (ถือ 68.47%) และผู้ถือหุ้นที่เหลือวางแผนเพิ่มทุนในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ใน สปป.ลาว เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้สกุลบาททั้งหมด โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อ BCH หลังจากรวมงบการเงิน โดยใน 2Q66 BCH รับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินกีบอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทจำนวน 63 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21% ของกำไรปกติ
สำหรับปี 2566 ประมาณการกำไรปกติไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท และคาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 3Q66 และทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q66
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับเพิ่มขึ้น 8.47%MoM สู่ระดับ 19.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.29%MoM สู่ระดับ 1,549.01 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 8% ดีกว่า SET ที่เพิ่มขึ้น 2% โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ BCH และแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมหุ้น เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น ปัจจุบันหุ้น BCH เทรดที่ P/E ปี 2566 ระดับ 35 เท่า และ P/E ปี 2567 จะลดลงมาอยู่ที่ 29 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 41 เท่า โดยให้เรตติ้ง Outperform สำหรับ BCH ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 23 บาทต่อหุ้น โดยอิงกับ WACC ที่ 6.5% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%
ส่วนความเสี่ยงและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเกิดโรคระบาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบทำให้ผู้ป่วยชะลอการเข้าใช้บริการ, การแข่งขันรุนแรง, การขาดแคลนบุคลากร และความเสี่ยงด้านกฎหมาย