เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 3Q64 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยประกาศในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564
กระทบอย่างไร:
นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ปรับตัวขึ้น 12.6%QTD Outperform SET Index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 1.8% QTD (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาด กำไรสุทธิ 3Q64 ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 28%QoQ แต่ยังเพิ่มขึ้น 23%YoY โดยกำไรที่ลดลง QoQ มีสาเหตุมาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น QoQ เพื่อรองรับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการล็อกดาวน์ใน 3Q64 รวมถึงแนวโน้ม Non-NII จะลดลง QoQ จากกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง ขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากการตั้งสำรองที่ลดลง YoY
ในระยะถัดไปต้องติดตามการออกมาตรการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ระหว่างสถาบันการเงินสำหรับสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันกับสินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะออกมาตรการดังกล่าวในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มกำไรปี 2565 ของกลุ่มธนาคาร SCBS มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น โดยเล็งเห็น Upside จากแรงกดดันด้าน Credit Cost ที่ลดลงจากการผ่อนผันจัดชั้นและการกันเงินสำรองสำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จระยะยาว ท่ามกลางสินเชื่อและ Non-NII ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น รวมถึงอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง
ขณะที่ NIM มีแนวโน้มหดตัวลงเล็กน้อยจากการปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จในระยะยาว โดย SCBS คาดว่า กำไรปี 2565 ของกลุ่มธนาคาร จะฟื้นตัวต่อเนื่อง 15%YoY (จากเติบโต 21%YoY ในปี 2564)
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
