เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 อ่อนแอที่ 138 ล้านบาท (ลดลง 66%YoY และ 72%QoQ) เพราะถูกฉุดรั้งโดยรายการพิเศษ อย่างไรก็ตาม รายการพิเศษต่ำกว่าคาดส่งผลทำให้ผลประกอบการของ AH ดีกว่าตลาดคาด 30% เมื่อตัดรายการพิเศษออกไปพบว่า กำไรปกติอยู่ที่ 421 ล้านบาท ลดลง 29%YoY และ 3%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากยอดขายและส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง
สำหรับปี 2566 AH รายงานกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 12%YoY และเมื่อตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%YoY ส่วนเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 2H66 อยู่ที่ 0.95 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4%XD วันที่ 14 มีนาคม และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม
กระทบอย่างไร:
หลังรายงานผลประกอบการในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ราคาหุ้น AH ปรับขึ้น 0.42% สู่ระดับ 23.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.02% สู่ระดับ 1,371.01 จุด
แนวโน้มผลประกอบการ 2567:
InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปกติของ AH ลดลง 9% ในปี 2567 และ 4% ในปี 2568 หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการปี 2566 และเพื่อสะท้อนส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงหลังจากบริษัทขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม SACL
สำหรับปี 2567 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตในระดับต่ำที่ 3%YoY สู่ 1.8 พันล้านบาท แต่น่าจะเห็นภาพที่ดีขึ้นในปี 2568 ด้วยอัตราการเติบโต 10% โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนใหม่; AAPICO Avee (ถือหุ้น 60% โดย AH และที่เหลือ 40% ถือโดยบริษัทย่อยของ Proton Holdings Berhad) และ JV Purem AAPICO (บริษัทร่วมทุนที่ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายระบบควบคุมการปล่อยไอเสียและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องสำหรับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถยนต์ส่วนบุคคล, AH ถือ 49%) สำหรับ 1Q67 คาดว่ากำไรปกติของ AH จะลดลง YoY แต่ทรงตัว QoQ จากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำยังคงคำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือนที่ Outperform สำหรับ AH เนื่องจาก Risk / Reward น่าสนใจ ปัจจุบันหุ้น AH เทรดที่ P/E ปี 2567 ที่ 4.7 เท่า และ P/E ปี 2568 ที่ 4.3 เท่า ซึ่งใกล้กับระดับ -2SD เมื่อรวมกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4% สำหรับผลการดำเนินงานงวด 2H66 และที่คาดไว้ 8% ในปี 2567 โดยมองว่าน่าจะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นได้ ส่วนราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 38 บาทต่อหุ้น (ลดลงจากราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 44 บาทต่อหุ้น)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ
– ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์
– การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก
– ข้อพิพาททางกฎหมาย
โดยมองว่าความเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) แต่ AH มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน