เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 402 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2%YoY แต่เพิ่มขึ้นมากถึง 213%QoQ หากตัดรายการพิเศษออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%YoY และ 153%QoQ ซึ่งออกมาดีกว่าตลาดคาดอยู่ 28% โดยเกิดจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง
สำหรับรายการสำคัญใน 1Q65 มีดังนี้
- เมื่อจำแนกตามสถานที่ AH เปิดเผยว่า การดำเนินงานแข็งแกร่งในประเทศไทย จีน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโปรตุเกส สำหรับการดำเนินงานในโปรตุเกส ผลการดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไรเล็กน้อย จากขาดทุนราว 100 ล้านบาท ใน 4Q64 โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ขาดแคลนชิปในยุโรปที่ปรับตัวดีขึ้น ยอดขายเพิ่มเติมจากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับยานยนต์ และประโยชน์จากการปรับราคาขายเพื่อส่งผ่านราคาเหล็กที่สูงขึ้น
- ยอดขายอยู่ที่ 6.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY และ 17%QoQ เมื่อจำแนกตามธุรกิจ ยอดขายจากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ OEM (76% ของยอดขาย) เติบโต 23%YoY และ 31%QoQ และยอดขายจากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (24% ของยอดขาย) เติบโต 13%YoY แต่ลดลง 14%QoQ
- อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.1% ใน 1Q65 ต่ำกว่า 12.1% ใน 1Q64 แต่สูงกว่า 10.0% ใน 4Q64 โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้น และประโยชน์จากการปรับราคาขายเพื่อส่งผ่านราคาเหล็กที่สูงขึ้น
กระทบอย่างไร:
วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ณ เวลา 12.30 น. ราคาหุ้น AH ปรับเพิ่มขึ้น 4.48%DoD สู่ระดับ 23.30 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 0.23%DoD อยู่ที่ระดับ 1,610.76 จุด
แนวโน้มผลประกอบการในปี 2565:
SCBS คาดว่ากำไรปกติ 2Q65 จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการเริ่มผลิตเพลารถกระบะตามคำสั่งซื้อใหม่ แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่อัปไซด์ คืออัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนทั้งปี 2565 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 28%
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่อผลประกอบการที่ต้องติดตาม คือสถานการณ์ขาดแคลนชิปที่อาจส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่การประกอบรถยนต์ไปจนถึงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หยุดชะงักชั่วคราว และราคาเหล็กที่สูงขึ้น