เกิดอะไรขึ้น:
หลังจากที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ได้ประกาศว่าบริษัทได้รับแต่งตั้งจาก Disney ให้เป็นผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการในไทยของ Disney+ Hotstar หรือ Exclusive Telecom Operator เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ทาง SCBS จึงได้จัดทำวิเคราะห์ประเมินผลกระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการของ ADVANC
กระทบอย่างไร:
นับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ราคาหุ้น ADVANC ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 176.00 จากราคาปิดวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ 172.50 บาท ขณะที่วันนี้ (17 มิถุนายน 2564) ราคาหุ้น ADVANC ลดลง 0.58%DoD สู่ระดับ 172.50 บาท
มุมมองระยะสั้น:
SCBS ได้ประเมินจำนวนผู้ที่มีแนวโน้มสมัครสมาชิก Disney+ ในประเทศไทย โดยเทียบเคียงกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงระดับโลกอย่าง Netflix ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลกราว 200 ล้านราย ขณะที่ Disney+ ใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งจึงจะมีจำนวนสมาชิกทั่วโลก 100 ล้านราย หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก Netflix
ทั้งนี้ Netflix เปิดตัวในไทยปี 2560 เมื่ออิงกับข้อมูลปัจจุบัน สมาชิก Netflix ในประเทศอยู่ที่ประมาณ 550,000 ราย ซึ่ง SCBS มองว่าแนวโน้มที่สมาชิก Disney+ ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นสู่ 275,000 รายได้ภายในปี 2565
ทั้งนี้ SCBS เชื่อว่าการจัดโปรโมชันสมัครสมาชิก Disney+ เดือนละ 35 บาทสำหรับลูกค้าของ ADVANC มีความน่าสนใจมากพอที่จะดึงดูดให้ผู้ใช้บริการบางรายย้ายค่ายมาใช้บริการของ ADVANC ในกรณีดีที่สุด (Best Case) โดยใช้สมมติฐานว่าสมาชิกของ Disney+ ทั้งหมดเป็นผู้ใช้บริการรายใหม่ของ ADVANC จากการประเมินเบื้องต้นดีลนี้จะช่วยหนุนให้กำไรปี 2565 ของ ADVANC เพิ่มขึ้นราว 2.4% หรือ 600 ล้านบาท นอกจากนี้ดีลดังกล่าวจะช่วยลดอัตราการยกเลิกบริการของลูกค้า ADVANC ได้
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มระยะยาวในธุรกิจหลักของ ADVANC จะยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะธุรกิจ 5G เนื่องจาก SCBS เชื่อว่าปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญจะมาจากผู้ใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งโอกาสทางธุรกิจในปัจจุบันมีจำกัด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์