เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 8%QoQ และ 5%YoY หากตัดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 5.2%QoQ และ 7.57%YoY
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรลดลง เกิดจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทั้งนี้ กำไรปกติ 1Q65 คิดเป็นสัดส่วน 22.4% ของประมาณการกำไรปี 2565
สำหรับรายการสำคัญใน 1Q65 มีดังนี้
- ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่: รายได้อยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านบาท (88% ของรายได้จากการให้บริการหลัก) ลดลง 2.5%QoQ และ 1.7%YoY นอกเหนือจากผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว การแข่งขันด้านราคาก็เพิ่มขึ้นจากแพ็กเกจประเภทใช้งานดาต้าไม่จำกัดด้วยความเร็วคงที่ (Fixed-Speed Unlimited Plan) ที่ยังคงสร้างแรงกดดันต่อ Blended ARPU (รายได้เฉลี่ยต่อหมายเลขต่อเดือน)
จำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสุทธิยังแข็งแกร่งที่ 506,500 เลขหมาย (ระบบเติมเงิน 53%) ส่งผลทำให้จำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งหมดอยู่ที่ 44.6 ล้านเลขหมาย (6.3% ใช้บริการ 5G) บริษัทระบุว่าปัญหาการขาดแคลนชิปมีผลกระทบต่อจำนวนมือถือรุ่นที่รองรับ 5G ซึ่งเป็นปัจจัยที่ชะลอการขาย 5G อยู่บ้าง ปัจจุบันโครงข่าย 5G ของบริษัทครอบคลุม 78% ของประชากรทั้งหมด
- ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (FBB): รายได้อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (7.4% ของรายได้จากการให้บริการหลัก) เพิ่มขึ้น 6.4%QoQ และ 27%YoY ได้รับการสนับสนุนจากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตบ้านเพื่อทำงานที่บ้าน จำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสุทธิ อยู่ที่ 93,100 ราย ส่งผลทำให้จำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นสู่ 1.9 ล้านราย
ARPU เริ่มทรงตัว 0.7%QoQ แต่ยังคงลดลง 3.4%YoY ซึ่งบริษัทกล่าวว่าการเติบโต QoQ เป็นผลมาจากกลยุทธ์การผนวกรวมบริการทั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน โทรศัพท์มือถือ และคอนเทนต์เป็นแพ็กเกจรวมที่ให้บริการกับลูกค้า เพื่อมุ่งสร้างบริการที่เพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน
- ต้นทุนเพิ่มขึ้น YoY: ต้นทุนการให้บริการอยู่ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท ลดลง 0.6%QoQ เกิดจากค่าเสื่อมราคาที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้น 1.9%YoY เกิดจากการลงทุนในโครงข่าย ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท ลดลง 4.9%QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 0.8%YoY เกิดจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น
กระทบอย่างไร:
ในวันนี้ (วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ณ เวลา 12.30 น.) ราคาหุ้น ADVANC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.94%DoD สู่ระดับ 215.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 0.56%DoD อยู่ที่ระดับ 1,613.72 จุด
แนวโน้มผลประกอบการในปี 2565:
แม้ใน 1Q65 รายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 1.1%YoY แต่ ADVANC ยังคงเป้าหมายปี 2565 ไว้เหมือนเดิม โดยตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการหลักเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง EBITDA เติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ และวางงบลงทุนไว้ที่ 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่ SCBS ตั้งสมมติฐานยึดหลักอนุรักษ์นิยมมากกว่า ADVANC โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโต 3.4% และคาดว่ากำไรในปี 2565 จะอยู่ที่ 2.83 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%YoY
ทั้งนี้ ราคาหุ้น ADVANC ปรับตัวลดลง 5.8% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา Underperform SET อยู่ 2.1% ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากความกังวลว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวช้ากว่าคาด นอกจากนี้ ดีลระหว่าง TRUE-DTAC อาจจะล่าช้า ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันที่ลดลงก็อาจจะเกิดขึ้นล่าช้าออกไปด้วย
อย่างไรก็ดี SCBS เชื่อว่าผลประกอบการ ADVANC ยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว ขณะที่ความชัดเจนมากขึ้นของดีลระหว่าง TRUE-DTAC จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น ADVANC