เกิดอะไรขึ้น:
ประเทศไทยไม่ตกขบวน 5G โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช. จะเปิดประมูล 5G พร้อมกัน 4 คลื่นความถี่ 56 ใบอนุญาต โดยคลื่นที่จะนำมาเปิดประมูล ได้แก่
- คลื่นความถี่ 700 MHz เปิดประมูล 15 MHz แบ่งออกเป็น 3 ใบอนุญาต ใบละ 5 MHz (ราคาเริ่มต้นใช้ราคาเดียวกับการจัดสรรคลื่น 700 MHz ในครั้งก่อน คือ 8.7 พันล้านบาท)
- คลื่นความถี่ 1800 MHz เปิดประมูล 35 MHz แบ่งออกเป็น 7 ใบอนุญาต ใบละ 5 MHz (ราคาเริ่มต้นใช้ราคาสูงสุดจากการประมูลคลื่น 1800 MHz ในครั้งก่อน คือ 1.25 หมื่นล้านบาท)
- คลื่นความถี่ 2600 MHz เปิดประมูล 190 MHz แบ่งออกเป็น 19 ใบอนุญาต ใบละ 10 MHz
- คลื่นความถี่ 26 GHz เปิดประมูล 2700 MHz แบ่งออกเป็น 27 ใบอนุญาต ใบละ 100 MHz
โดยผู้เข้าร่วมประมูลแต่ละรายสามารถเลือกเข้าประมูลคลื่นความถี่ที่ต้องการได้ แต่ในส่วนคลื่น 2600 MHz กำหนดเพดานถือครองคลื่นสูงสุดได้รายละไม่เกิน 10 ใบอนุญาต หรือ 100 MHz และคลื่น 26 GHz กำหนดเพดานถือครองคลื่นสูงสุดได้รายละไม่เกิน 12 ใบอนุญาต หรือ 1200 MHz ซึ่งในส่วนของราคาเริ่มต้นของทั้ง 2 คลื่นนี้จะเปิดเผยได้ในวันที่ 30 ตุลาคม
สำหรับกรอบระยะเวลาและรูปแบบการประมูลนั้น กสทช. จะเสนอให้คณะอนุกรรมการโทรคมนาคมพิจารณาวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุม กสทช. และจัดทำประชาพิจารณ์ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 หลังจากนั้นจะออกประกาศเชิญชวนให้เข้าประมูลไม่เกินวันที่ 20 ธันวาคม 2562 เพื่อนำไปสู่การเคาะราคาประมูลและออกใบอนุญาตไม่เกินวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้ผู้ชนะเริ่มลงทุนโครงข่ายได้ในต้นเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งคาดว่าผู้ชนะการประมูลจะสามารถเปิดให้บริการ 5G ได้ในบางพื้นที่ภายในสิงหาคม 2563
สอดคล้องกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในระหว่างการโรดโชว์ชักจูงนักลงทุนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มณฑลกวางตุ้ง ระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2562 ซึ่งทางผู้บริหาร Huawei แสดงเจตจำนงว่า ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย จึงจำเป็นต้องมีระบบ 5G ไว้รองรับการเชื่อมโยงระหว่าง EEC และโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีน
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (24 ตุลาคม) ราคาหุ้นผู้ให้บริการเครือข่ายที่คาดว่าจะเข้าประมูล 5G ตอบรับในเชิงบวกไม่มากนัก โดย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ราคาหุ้นช่วงเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 235 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 231 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.73% DoD ขณะที่ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ราคาหุ้นช่วงเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 61.25 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 60.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.82% DoD และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ราคาหุ้นช่วงเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 5.30 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 5.55 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.95% DoD
มุมมองระยะสั้น:
นับเป็นการวางกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ขณะเดียวกันทำให้บรรดาผู้ให้บริการต้องเตรียมความพร้อมในการเข้าลงทุนเช่นกัน ซึ่งกฎเกณฑ์ในการประมูลครั้งนี้มีความยืดหยุ่นขึ้นตรงที่ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถเลือกเข้าประมูลคลื่นความถี่ที่ต้องการได้ อย่างไรก็ดี คาดว่าแต่ละรายจำเป็นต้องประมูลคลื่นไว้ให้เพียงพอ เพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขัน SCBS จึงมองว่า เป็นความท้าทายที่สำคัญยิ่งของผู้ให้บริการเครือข่ายที่ต้องรับมือกับการลงทุนพัฒนาโครงข่าย 5G ที่ค่อนข้างสูงในระยะแรก นอกเหนือจากการลงทุนพัฒนาโครงข่าย 3G และ 4G ที่มีอยู่เดิม
มุมมองระยะยาว:
SCBS ประเมินว่า เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค 5G ให้ทันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ต่อจากเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่คาดว่าจะได้ใช้ 5G ก่อนไทย ทั้งนี้ ภายหลังจากการเปิดให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ (ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ช่วงปี 2564) แนวโน้มรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ของผู้ประกอบการแต่ละรายจะค่อยๆ ขยายตัวขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของการใช้งานข้อมูล (Non-Voice) และอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการลงทุนพัฒนาโครงข่าย 5G ที่ค่อนข้างสูงดังกล่าวข้างต้น อาจทำให้จุดคุ้มทุนของผู้ให้บริการต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานในระยะถัดไป
ข้อมูลพื้นฐาน:
คลื่น 5G เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จำเป็นต้องใช้คลื่นความถี่ใหม่ที่มีขนาด Bandwidth กว้างมาก โดยย่านความถี่ที่เหมาะสมคือ ต่ำกว่า 1GHz, 1-6 GHz และสูงกว่า 6 GHz ขึ้นไป สำหรับประเทศที่มีการทดลองใช้งาน 5G แล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ส่วนสหภาพยุโรปและจีนคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสแรกของปี 2563 ขณะที่ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, เวียดนาม และมาเลเซีย ระบุว่า จะเริ่มต้นใช้งาน 5G อย่างเป็นทางการในช่วงกลางปี 2563
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล