เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการ 2Q64 ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564
กระทบอย่างไร:
ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/64 จนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ปรับตัว 14.3%QTD Underperform SET Index ที่ปรับตัวลงเพียง 0.5%QTD (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารจะลดลง 4%QoQ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น QoQ เพื่อรองรับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบของการระบาดระลอก 3 ของโควิด แต่แนวโน้มกำไร 2Q64 จะเพิ่มขึ้น 47%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองต่ำกว่าปีก่อนและรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มสูงขึ้น โดย SCBS ได้สรุปประมาณการกำไร 2Q64 ของกลุ่มธนาคารดังนี้
BBL จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 5.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 89%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY และ NII ที่สูงขึ้น (ซึ่งเป็นการรับรู้จาก Permata) แต่กำไร 2Q64 ลดลง 16%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ และ NII ที่ทรงตัว
KTB จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 5.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY แต่กำไร 2Q64 ลดลง 8%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
KBANK จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 9.50 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 337%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY NII สูงขึ้น YoY และ OPEX ลดลง YoY แต่กำไร 2Q64 ลดลง 11%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
BAY จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 63%YoY แม้การตั้งสำรองจะสูงขึ้น YoY แต่มีการรับรู้กำไรจากเงินลงทุนใน TIDLOR ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 63%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
TTB จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 2.03 พันล้านบาท ลดลง 34%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองสูงขึ้น YoY และมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการควบรวมกับ TBANK ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 27%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ และมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการควบรวมกับ TBANK เช่นกัน
TISCO จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.61 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY จากการตั้งสำรองที่ลดลง YoY และ OPEX ที่ลดลง YoY ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 8%QoQ จาก Non-NII ที่ลดลง QoQ
KKP จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%YoY จาก OPEX ที่ลดลง YoY ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 3%QoQ แม้การตั้งสำรองจะลดลง QoQ แต่ OPEX สูงขึ้น เพราะมีผลขาดทุนจากการขายรถยึด
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 20%YoY เนื่องจากธนาคารพาณิชย์จะตั้งสำรองลดลงเล็กน้อยหลังจากเร่งตั้งสำรองในปี 2563 ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัว และ NIM จะลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เต็มปี
ขณะที่แนวโน้มกำไรปี 2565 ของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 8%YoY จากการตั้งสำรองลดลง แต่จะถูกกดดันจากการปรับอัตราการนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 23 bps สู่ระดับปกติที่ 0.46%
ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะขยายเวลาการลดอัตรานำส่งเงินสมทบฯ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธนาคาร จากการประเมินเบื้องต้น หากธนาคารแห่งประเทศไทยขยายเวลาการลดอัตรานำส่งเงินสมทบฯ ประมาณการกำไรปี 2565 ของกลุ่มธนาคารจะมีอัปไซด์ราว 14% แต่อย่างไรก็ดี SCBS เชื่อว่าประโยชน์ที่ธนาคารได้รับจะส่งผ่านไปยังลูกค้า
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล