×

ครม. เตรียมเข็นมาตรการชุดใหญ่ กระตุ้นท่องเที่ยวปี 2563 กระทบหุ้นตัวไหน

โดย SCB WEALTH
08.10.2019
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

วานนี้ (7 ตุลาคม) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหม่สำหรับปี 2563 โดยจะจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยวเป็นรายเดือนทั้ง 12 เดือน ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันกับหลายกระทรวง เช่น กระทรวงการคลัง (เกี่ยวกับมาตรการลดภาษีสินค้า Brandname), กระทรวงสาธารณสุข (เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเมืองรองที่มีศักยภาพ) เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเน้นทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีการอำนวยความสะดวกด้วยการใช้ e-Visa และน่าจะได้อานิสงส์จากการจัดประชุมระดับนานาชาติ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น 

 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ขอความร่วมมือไปยังสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines) ช่วยเพิ่มเที่ยวบินการให้บริการในท่าอากาศยานภูมิภาค เพื่อขยายฐานตลาดการท่องเที่ยวสู่เมืองรองอีกด้วย

 

โดยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหม่นี้ จะสามารถระบุรายละเอียดได้ภายหลังจากได้รับการอนุมัติแพ็กเกจชุดมาตรการจากที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจในวันที่ 11 ตุลาคมนี้

 

กระทบอย่างไร:

เช้าวันนี้ (8 ตุลาคม) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวตอบรับในเชิงบวก เช่น

 

บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 36.50 บาท หรือ 2.74% DoD

 

บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 3.06 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 3.02 บาท หรือ 1.32% DoD

 

บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 5.65 บาท หรือ 0.88% DoD

 

บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 32.00 บาท หรือ 0.78% DoD

 

บมจ. สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 14.10 บาท หรือ 0.71% DoD

 

และ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงเช้าที่ 74.50 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 74.00 บาท หรือ 0.67% DoD

 

มุมมองระยะสั้น: 

เนื่องจากมาตรการท่องเที่ยวที่จะออกมาใหม่เป็นแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องทำงานร่วมกับหลายกระทรวง และจัดทำแผนงานออกมาเป็นรายเดือนทั้ง 12 เดือนว่าจะทำอะไรในจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดใดบ้าง ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาหลังจากนี้ 

 

ดังนั้น SCBS จึงคาดว่าเม็ดเงินที่สะพัดจากมาตรการดังกล่าวน่าจะเริ่มเห็นชัดเจนในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นความคาดหวังที่มีต่อการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติมในปี 2563 รวมทั้งความคาดหวังที่มีต่อมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ ครม. ได้อนุมัติออกไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ อาทิ มาตรการชิมช้อปใช้, มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย และมาตรการเที่ยววันธรรมดา ราคา Shock โลก เป็นต้น คาดจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยและราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกลับมาคึกคักขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

มุมมองระยะยาว:

การท่องเที่ยวยังถือเป็นเครื่องยนต์หลักในการพยุงเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ที่การส่งออก การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่คาดแนวโน้มจะยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก อย่างไรก็ดี หากพึ่งพาแต่การท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะถัดไป ดังนั้นในระยะยาวนักลงทุนคงต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ภาครัฐจะนำเสนอออกมาเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน, ความขัดแย้งในตะวันออกลาง (Geopolitical Risk) เป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X