‘หุ้นเดินเรือ’ ทรุดหนัก ทั้ง TTA และ PSL ร่วงกว่า 7-8% ผลกระทบจาก ‘จีน’ ประกาศล็อกดาวน์คุมโควิด กระทบขนส่งทางเรือ ขณะ ‘EU’ สั่งแบนสินค้าจากรัสเซียเพิ่ม ส่อฉุดค่าระวางเรือร่วง โบรกแนะเลี่ยงลงทุน
หุ้นกลุ่มเดินเรือในวันนี้ (15 มีนาคม) ถูกเทขายออกมากอย่างหนัก นำโดยหุ้น บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA ราคาหุ้น เปิดตลาดที่ระดับ 11.10 บาท ก่อนจะมีแรงเทขายออกมาอย่างหนัก กดดันให้ราคาหุ้น TTA ปรับลดลงมาปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 10.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 8.70%
ขณะที่หุ้น บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง หรือ PSL เปิดซื้อขายที่ระดับ 19.10 บาท ลดลง 0.70 บาท หลังจากนั้นก็มีแรงเทขายออกมาต่อเนื่อง กดดันให้ราคาหุ้น PSL ปรับตัวลดลงมาปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 18.30 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 7.58%
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า แรงเทขายหุ้นกลุ่มเดินเรือ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกภายหลังจากจีนประกาศล็อคดาวน์เซินเจิ้น ซึ่งถือเป็นการล็อกดาวน์เมืองแห่งที่ 5 ของจีน จะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อค่าระวางเรือได้
“จีนล็อกดาวน์ไปแล้ว 5 เมือง ซึ่งเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การขนส่งทางเรือย่อมจะได้รับผลกระทบ ซัพพลายเชนโลกอาจจะสะดุด กระทบชิ่งมาที่การขนส่งสินค้าทางเรือได้ จึงมีโอกาสที่ค่าระวางเรือจะร่วงลง เพราะมีแนวโน้มด้วยว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว”
กิจพณกล่าวด้วยว่า แรงขายไม่ได้เกิดขึ้นที่เฉพาะตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นอเมริกาก็มีแรงขายหุ้นกลุ่มเดินเรือออกมาเหมือนกัน
ด้าน ศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย สหภาพยุโรปมีการประกาศแบนการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าประเภทเหล็กและสินแร่เหล็กที่ปั้นเป็นเม็ดเพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเหล็ก โดยมติดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการผลิตเหล็กและการส่งออกเหล็ก ซึ่งจะกระทบเป็นลูกโซ่ทางอ้อมต่อค่าระวางเรือที่จะร่วงลง เพราะการขนส่งสินค้ามีน้อยลง
“วัตถุดิบที่จะขนส่งจากรัสเซียหายไป การขนส่งสินค้าก็จะลดลงด้วย หุ้นของบริษัทใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องคือ TTA และ PSL จึงถูกแรงเทขายออกมา เพราะนักลงทุนมองว่าจะถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” ศราวุธกล่าว
ศราวุธกล่าวว่า ในระยะสั้นนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ เพื่อรอความชัดเจน เนื่องจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คาดว่าจะยังคงยืดเยื้อและต้องมีการเจรจากันอีกหลายรอบ ซึ่งในระหว่างนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปจะมีมาตรการใดออกมาแบนรัสเซียเพิ่มเติมอีกหรือไม่ และผลจากการแบนดังกล่าวจะกระทบต่อค่าระวางเรือมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ ควรต้องติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดในประเทศจีนว่าจะมีผลให้ต้องมีการปิดเมืองเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ด้วย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
