เพราะไม่มีใครเข้าใจคนหิวได้ดีไปกว่าคนเคยหิว อดีตเด็กน้อยที่เคยมีวันเวลาที่ยากลำบากและอยู่รอดมาได้ด้วยอาหารฟรีมื้อเช้าที่โรงเรียนอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด จึงประกาศเจตนารมณ์เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่
เขาจะไม่ยอมให้เด็กๆ ท้องถิ่นต้องท้องร้องด้วยความหิวโหยเป็นอันขาด
ท่ามกลางความช่วยเหลือมากมายจากเหล่านักฟุตบอลผู้มั่งมีที่ส่งต่อความช่วยเหลือกลับคืนสู่สังคม และแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนพวกเขามาตลอดไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข กองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 22 ปี อย่างแรชฟอร์ดเองก็ไม่รีรอที่จะยื่นมือ เข้าช่วยเหลือด้วยเช่นกัน
โดยเขาเลือกที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ในเมืองแมนเชสเตอร์จำนวนมากที่กำลังประสบปัญหาใหญ่คือการที่อาจจะได้กินอาหารไม่ครบ เนื่องจากมีคำสั่งในการหยุดเรียน อันเป็นผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ในเวลานี้ผ่านมูลนิธิ FareShare
เหตุผลก็เพราะในวัยเด็กนั้นเขาเองก็เคยลำบากมาก่อน…
“ที่ผ่านมาผมทำงานช่วยเหลือสังคมเกี่ยวกับเด็กๆ ค่อนข้างเยอะ และเมื่อผมได้ยินว่าโรงเรียนถูกสั่งปิด ผมรู้ได้ทันทีว่านั่นหมายถึงผลกระทบเรื่องอาหารฟรีสำหรับเด็กๆ บางคนที่จะไม่ได้รับ เพราะพวกเขาไม่ได้ไปโรงเรียน” แรชฟอร์ดให้สัมภาษณ์กับรายการ BBC Breakfast
“ผมนึกถึงในวัยเด็กที่ผมได้อาหารฟรีตอนไปโรงเรียน และแม่ของผมก็จะไม่กลับบ้านจนกว่าจะ 6 โมงเย็น ดังนั้นผมต้องรอกินมื้อต่อไปตอน 2 ทุ่ม ผมยังโชคดี เพราะมีเด็กๆ จำนวนมากที่ลำบากกว่าผม พวกเขาไม่มีอาหารกินที่บ้าน
“การช่วยเหลือเด็กๆ เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผม มันคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่ผมจะต้องทำ ในรุ่นของเรานั้นได้รับอิทธิพลจากทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ซึ่งผมเองพยายามจะส่งผ่านสิ่งดีๆ ให้กับเด็กรุ่นต่อไป
“เราพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำได้ร่วมกับผู้คนที่บริจาคเข้ามา ซึ่งเราทำได้ค่อนข้างดี ตอนนี้เรามีเงินบริจาคอยู่ 1 แสนปอนด์ ซึ่งหมายความว่าเราจะสามารถเลี้ยงอาหารเด็กๆ ได้ถึง 4 แสนคน มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ”
แรชฟอร์ดยังได้จัดการประกวดแต่งกลอนด้วย โดยเขาเป็นจะเป็นผู้ตัดสินเอง พร้อมกับคำมั่นว่าใครที่ชนะการประกวดจะได้รับรางวัลจากมือของเขาเอง – เมื่อสถานการณ์ในอังกฤษกลับมาสู่ภาวะปกติและทุกคนปลอดภัยแล้ว
“เมื่อทุกอย่างจบ ผมจะไปที่โรงเรียน ไปหาเด็กๆ และให้รางวัลจากการประกวดกับพวกเขา
“ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของจิตใจ เพราะในอาชีพของผมมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมจึงพยายามที่จะรักษาพัฒนาการและพยายามทำให้ดีขึ้น เพราะในเรื่องของสภาพร่างกาย ผมทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้
“มีความรู้มากมายในหนังสือ ซึ่งคุณจะไม่มีวันรู้หรอกจนกว่าจะได้เริ่มอ่านด้วยตัวเอง”
นอกจากความพยายามของเขาแล้ว ความพยายามของสโมสรผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ต้นสังกัดของเขา กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองเองก็เป็นสิ่งที่น่าซาบซึ้งใจเช่นกัน เมื่อ ‘เพื่อนบ้านที่ไม่เคยลงรอยกัน’ ตัดสินใจที่จะลืมทุกอย่างและหันมาจับมือเพื่อดูแลชาวเมืองให้ดีที่สุด
“ผมคิดว่าในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ การที่สองสโมสรซึ่งมีอิทธิพลอย่างสูงต่อวิถีของสังคมนั้นสำคัญมากเหมือนกับในสิ่งที่เราทำ คือการลุกขึ้นมาและพยายามสร้างความแตกต่างในสิ่งที่มีความหมายมากกว่าการเล่นฟุตบอล ผมขอชื่นชมทั้งสองสโมสร”
ดังนั้นแม้สถานการณ์ในอังกฤษจะยังไม่สู้ดีนัก จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ยังสูงมาก แต่อย่างน้อยเด็กๆ และชาวเมืองแมนเชสเตอร์ก็อุ่นใจได้บ้าง
ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่หมายถึงวันหน้าด้วย เพราะเมื่อถึงคราวที่ชาวเมืองต้องลำบากอีกครั้งในอนาคต เมล็ดพันธุ์ของความปรารถนาดีที่แรชฟอร์ดปลูกไว้ในใจน้องๆ จะเติบใหญ่และพร้อมส่งต่อความช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
เหมือนที่แรชฟอร์ดก็เคยได้รับสิ่งดีๆ และอยากจะส่งต่อสิ่งเหล่านั้นให้ทุกคน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/coronavirus-marcus-rashford-manchester-united-charity-work-feeding-children-schools-closed-a9434406.html
- https://www.bbc.com/sport/football/52091219
- https://fareshare.org.uk
- FareShare เป็นเครือข่ายการกุศลเกี่ยวกับการแจกจ่ายอาหาร ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของ 17 องค์กรอิสระที่จะนำอาหารคุณภาพดีจากอุตสาหกรรมอาหารทั่วประเทศไปสู่มูลนิธิหรือชุมชนกว่า 11,000 แห่ง เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการต่อไป ซึ่งรวมถึงการนำไปเป็นอาหารเช้าให้เด็กๆ ที่โรงเรียนด้วย