เว็บไซต์สำนักข่าว Al Jazeera เปิดเผยว่า บริษัทผู้ให้บริการขุดเหรียญ Bitcoin หลายแห่งในจีนต่างทยอยออกมาประกาศปิดบริษัทนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา หลังทางการจีนเตรียมยกระดับมาตรการควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการขุด Bitcoin ในประเทศ โดยให้เหตุผลว่าสกุลเงินดิจิทัลไม่ปลอดภัย ทั้งยังคุกคามเสถียรภาพทางการเงินของจีน
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎระเบียบเข้มงวดในการซื้อขาย Bitcoin และเหรียญดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2017 แต่จีนก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตลาดขุดคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยปัจจุบันมีการประเมินในเบื้องต้นว่า 70% ของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่ขุดขึ้นมาได้มาจากจีน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันตกของประเทศที่ถือเป็นแหล่งขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่
อย่างไรก็ตาม การที่ทางรัฐบาลกรุงปักกิ่งออกมาประกาศแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะใช้ไม้แข็งกับบรรดาเทรดเดอร์และนักขุด ไม่เพียงแต่ทำให้ราคาของเหรียญดิจิทัลชั้นนำอย่าง Bitcoin ร่วงหนักกว่า 50% จากราคาสูงสุดตลอดกาลแล้วเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เหล่าบริษัทผู้ให้บริการขุดเหรียญดิจิทัลต่างเร่งหาทางหนีทีไล่อย่างเต็มที่
เริ่มต้นที่ Huobi Mall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล Huobi ได้ออกแถลงการณ์ในช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ขอระงับการดำเนินการทุกอย่างของบริษัทเป็นการชั่วคราว พร้อมขอให้ลูกค้านักขุดทั้งหลายอยู่ในความสงบ เพราะทางบริษัทกำลังดำเนินการติดต่อผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อปูทางให้บริษัทสามารถกลับมาให้บริการได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
ด้าน BTC.TOP หนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซี Mining Pool ก็ได้ประกาศระงับธุรกิจในจีน เนื่องจากความเสี่ยงด้านกฎระเบียบของรัฐบาลจีน โดย Jiang Zhuoer ผู้ก่อตั้ง BTC.TOP ระบุชัดว่า ในอนาคตอันใกล้บริษัทจะให้บริการขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีจากอเมริกาเหนือเป็นหลัก พร้อมประเมินว่าในระยะยาวบริษัทที่ทำกิจการด้านการขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดในจีนจะถูกขายไปยังต่างประเทศ เนื่องจากทางการจีนปราบปรามการขุดเหรียญดิจิทัลภายในประเทศ และท้ายที่สุดก็จะสูญเสียอิทธิพลในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีให้กับซีกโลกตะวันตกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ที่ตลาด Mining Pool กำลังขยายตัวเติบโตมากขึ้น
นอกจากนี้มีรายงานว่า HashCow อีกหนึ่งผู้ให้บริการขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี และเป็นเจ้าของเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี 10 แห่งในหลายมณฑลของจีน รวมถึงในซินเจียงและเสฉวน อีกทั้งยังเป็นผู้ขายระบบคอมพิวเตอร์พาวเวอร์สำหรับการขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีให้กับนักลงทุน ประกาศให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ โดยแถลงการณ์ของบริษัทระบุชัดว่า HashCow จะยุติการซื้อแท่นขุด Bitcoin ใหม่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขุด Bitcoin และจะคืนเงินทั้งหมดให้กับนักลงทุนส่วนหนึ่งที่จ่ายเงินค่าซื้อคอมพิวเตอร์พาวเวอร์ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่มีการเริ่มขุดเหรียญดิจิทัลจากเครื่องเหล่านั้นไปแล้ว
แม้จีนจะเผยแนวทางที่จะจัดการกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีขั้นเด็ดขาด แต่นักกลยุทธ์ส่วนหนึ่งกลับมองว่าสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin, Ethereum หรือ Dogecoin ยังมีโอกาสเติบโตได้อยู่ พิจารณาจากทิศทางความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ที่เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin มีการปรับตัวลดลง ก่อนดีดตัวพุ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงปลายปี
โดย เบน อีมอนส์ กรรมการผู้อำนวยการ Medley Global Advisors ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ในฐานะที่ปรึกษาการลงทุน Bitcoin ขณะนี้กำลังหยั่งรากปักหลักในตลาดต่างๆ ผ่านความผันผวน สภาพคล่อง และการปรับฐาน ขณะที่ เอมี อู๋ ซิลเวอร์แมน นักกลยุทธตลาดอนุพันธ์ของ RBC เผยตัวเลขจากการวัคค่า Sharpe Ratio หรือผลตอบแทนต่อ 1 หน่วยความเสี่ยง พบว่าค่าดังกล่าวของ Bitcoin ทำได้ดีกว่าหุ้นใน Tesla Inc, SPDR S&P 500 ETF Trust หรือ Invesco QQQ Trust Series 1 เสียอีก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: