วันนี้ (5 เมษายน) ที่ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลชุดช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ผลัดที่ 2 ภายใต้ชื่อยุทธการ ‘มัณฑะเลย์ 82’ โดยมีพลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เข้าร่วมในพิธี
การส่งกำลังพลครั้งนี้มีจำนวน 55 นาย ประกอบด้วย ส่วนกองบังคับการควบคุม, ส่วนประสานงาน, หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (MERT), ช่างโยธา, หน่วยค้นหาและช่วยเหลือ, หน่วยสนับสนุนทั่วไป และหน่วยรักษาความปลอดภัย โดยมีภารกิจหลักด้านการแพทย์ คือ การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 100 คนต่อวัน และภารกิจด้านการช่าง คือ การสร้างที่พักพิงชั่วคราวจำนวน 30 หลังต่อวัน กำลังพลชุดนี้จะปฏิบัติภารกิจเป็นเวลาประมาณ 8 วัน
ก่อนออกเดินทาง พลเอก ทรงวิทย์ ได้ให้โอวาทและขอบคุณกำลังพลที่เสียสละ พร้อมอธิบายถึงความยากง่ายในการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำถึงความต้องการทีมแพทย์และวิศวกรของเมียนมาในการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัย โดยจะเน้นการสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวและกึ่งถาวรมากกว่าการซ่อมแซม นอกจากนี้ ยังได้กำชับเรื่องความปลอดภัยและเน้นย้ำการมีผู้บังคับบัญชาที่ชัดเจน รวมถึงการดูแลความปลอดภัยโดยทีมจากศูนย์ต่อต้านก่อการร้าย
ผบ.ทสส. กล่าวว่า กองทัพไทยตั้งใจจะส่งกำลังพลไปช่วยเหลืออีก 2 ผลัด และในวันนี้ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางร่วมคณะเพื่อเจรจากับทางการเมียนมาควบคู่ไปกับการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre) โดยจะใช้พื้นที่ของกองทัพอากาศเป็นจุดกระจายสิ่งของช่วยเหลือ
พลเอก ทรงวิทย์ ได้ให้กำลังใจกำลังพล โดยย้ำว่าภารกิจนี้มีหัวใจหลักคือ ‘มนุษยธรรม’ ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ พร้อมระบุว่าความสำเร็จของภารกิจคือการปฏิบัติงานด้วยความสุข เช่นเดียวกับนานาชาติที่เคยให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในอดีต นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความร่วมมือกับกองทัพจากประเทศอาเซียนอื่น ๆ เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งได้มีการประสานงานและให้ความช่วยเหลือในพื้นที่แล้ว
ในช่วงท้าย พลเอก ทรงวิทย์ ยืนยันว่าการกู้ภัยครั้งนี้ไม่มีอุปสรรค เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับทีมกู้ภัยของประเทศต่าง ๆ จากการฝึกร่วมกันที่ผ่านมา การเดินทางในครั้งนี้นับเป็นผลัดที่ 2 ในการส่งต่อความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูไปยังประเทศเมียนมา