วันนี้ (28 มกราคม) การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ที่เอติฮัดสเตเดียม
นัดนี้เจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังยึดระบบ 4-2-3-1 ซึ่งตัว 11 ผู้เล่น ประกอบด้วย สเตฟาน ออร์เตก้า (GK), ริโค เลวิส, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก, โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, แจ็ค กรีลิช และ เออร์ลิง ฮาแลนด์
ด้านอาร์เซนอลมาในระบบ 4-3-3 ส่วนตัว 11 ผู้เล่น ประกอบด้วย แมตต์ เทอร์เนอร์ (GK), ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ, กาเบรียล มากัลเญส, ร็อบ โฮลดิง, คีแรน เทียร์นีย์, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชากา, ฟาบิโอ วิเอรา, เลอันโดร ทรอสซาร์ด, บูกาโย ซากา และ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์
เกมครึ่งแรกดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 จังหวะที่ ทรอสซาร์ด พาบอลจี้ในกรอบเขตโทษ ก่อนได้ยิงเน้นๆ แต่ออร์เตก้ายังปัดออกไปได้
ถัดมา 4 นาที จังหวะขึ้นเกมบุกของแมนฯ ซิตี้ เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองปั่นบอลด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียว
นาทีที่ 32 ถึงโอกาสของทีมเยือนบ้าง คราวนี้เป็น เอ็นเคเทียห์ ได้ลองจบสกอร์ แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกัน 0-0
เกมครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 64 เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ได้เฮก่อน จากจังหวะขึ้นเกมบุกที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ได้ลองซัดไกลช็อตแรก บอลพุ่งไปชนเสา และเป็น แจ็ค กรีลิช ครองบอลได้ ก่อนไหลให้อาเก้ที่ยืนรอบอลได้บรรจงปั่นด้วยขวา บอลพุ่งเข้าเสาไกล พาแมนฯ ซิตี้ออกนำก่อน 1-0
หลังจากนั้น มิเกล อาร์เตตา เปลี่ยนผู้เล่นตัวหลักมาสู้กับแมนฯ ซิตี้ และพยายามสร้างโอกาสครองบอลบุกอย่างหนัก แต่ภาพรวมยังเจาะเกมรับของเจ้าบ้านไม่ได้
ทำให้จบเกมเป็นแมนฯ ซิตี้เอาชนะอาร์เซนอลไปได้ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ ได้สำเร็จ
สำหรับเกมต่อไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะบุกไปเยือนท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในเกมพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 23.30 น. เช่นเดียวกับอาร์เซนอล จะบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน เกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 19.30 น.
