‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กู้ศักดิ์ศรีของแชมป์เก่าด้วยการไล่ถล่มแชมป์ใหม่ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ขาดลอย 4-0 ในการพบกันที่เอติฮัดสเตเดียม เมื่อคืนที่ผ่านมา
เกมที่เอติฮัดในคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคมถูกจับตามองอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นการพบกันระหว่างแชมป์ 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับแชมป์ในฤดูกาลล่าสุดสดๆ ร้อนๆ อย่างลิเวอร์พูล โดยสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกจับตายังมีการยืนตั้งแถวต้อนรับของเจ้าบ้านเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ทีมแชมป์ด้วย ซึ่งทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ให้เกียรติตั้งแถวปรบมือต้อนรับด้วยดี
แต่เมื่อถึงเกมในสนาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ไว้หน้าแต่อย่างใด โดยหลังจากที่เริ่มต้นเกมได้ไม่ดีนัก มีความปั่นป่วนหลายครั้งจนเกือบจะโดนลิเวอร์พูลสำเร็จโทษได้ แต่จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 25 เมื่อ โจ โกเมซ เสียท่าให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่พลิกบอลในเขตโทษก่อนโดนดึงล้ม ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที และเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่สังหารเข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 1-0
หลังจากนั้นซิตี้ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มสูบและมาได้อีก 2 ประตูก่อนหมดครึ่งแรกจากการเข้าทำเร็วทั้งสองลูก โดยประตู 2-0 มาจากสเตอร์ลิงที่ได้บอลในเขตโทษจาก ฟิล โฟเดน ก่อนจะล็อกหลบโกเมซและยิงผ่านเบ็คเกอร์เข้าไปในนาทีที่ 35 ก่อนที่โฟเดน ไอ้หนูมหัศจรรย์จะทำชิ่งกับเดอ บรอยน์ และหลุดไปยิง 3-0 ในนาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลพยายามบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่มาโดนยิงเพิ่มอีกจากสเตอร์ลิงที่ได้บอลจ่ายทะลุช่องจากเดอ บรอยน์ก่อนยิงเข้าไป แต่จังหวะสุดท้ายโดน อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน จึงกลายเป็นการสกัดเข้าประตูตัวเองไป ก่อนที่ ริยาด มาห์เรซ จะบวกประตูปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ VAR ไม่ให้ อย่างไรก็ดี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะไป 4-0 ทำให้ลิเวอร์พูลแพ้เป็นเกมที่ 2 ของฤดูกาลนี้ ส่วนระยะห่างระหว่างสองทีมหดลงอยู่ที่ 20 แต้ม
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ที่ลงสนามก่อน ปรากฏว่าเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ 3-1
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์