วันนี้ (23 พฤศจิกายน) สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกแถลงการณ์เปิดรับพิจารณาข้อเสนอขาย-ร่วมลงทุนสโมสร เพื่อเปิดทางเลือกใหม่ให้กับทีม หลังตระกูลเกลเซอร์เข้ามาซื้อกิจการของทีมเมื่อปี 2005 ในราคา 790 ล้านปอนด์ และบริหารงานมานาน 17 ปี และถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่มแฟนบอลที่ตามประท้วงมานานหลายปี
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในสโมสรกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ สโมสรขอประกาศในวันนี้ว่าบอร์ดจะเริ่มต้นกระบวนการสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์เพื่อหาทางเลือกให้กับสโมสรแล้ว
“กระบวนการเกิดขึ้นเพื่ออนาคตที่เติบโตของสโมสร โดยมีเป้าหมายทำให้สโมสรมีโอกาสที่ดีทางด้านการเงินทั้งในและนอกสนาม
“ส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ คณะกรรมการจะพิจารณาทางเลือกเชิงกลยุทธ์ทั้งหมด รวมถึงการลงทุนใหม่ในสโมสร การขาย หรือธุรกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งจะรวมถึงการประเมินความคิดริเริ่มหลายอย่างเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสโมสร
“รวมถึงการพัฒนาสนามกีฬาและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ และการขยายการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของสโมสรในระดับโลก โดยแต่ละโครงการจะอยู่ในบริบทของการส่งเสริมความสำเร็จในระยะยาวของสโมสรทั้งทีมชายและหญิง และทีมอะคาเดมี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อแฟนๆ และผู้ถือหุ้น”
ด้าน อัฟราม เกลเซอร์ และ โจเอล เกลเซอร์ ประธานบริหารและผู้อำนวยการร่วมกล่าวว่า “ความแข็งแกร่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นขึ้นอยู่กับความหลงใหลและความภักดีของแฟนบอลทั่วโลกของเราที่มีจำนวนผู้ติดตาม 1.1 พันล้านคน ในขณะที่เราพยายามที่จะสร้างประวัติศาสตร์ความสำเร็จของสโมสรต่อไป คณะกรรมการได้อนุญาตให้มีการประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
“เราจะประเมินทุกข้อเสนอเพื่อเป็นหลักประกันว่าแฟนบอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อโอกาสการเติบโตครั้งสำคัญทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ตลอดกระบวนการนี้เราจะยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์สูงสุดสำหรับแฟนๆ ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ของเรา”
อ้างอิง:
