ภายหลังจากที่มีการประกาศการตัดสินลงโทษเอฟเวอร์ตัน ที่กระทำผิดกฎทางการเงิน Profit and Sustainability Rule (PSR) ด้วยการปรับถึง 10 คะแนน (และล่าสุดมีโอกาสถูกตัดแต้มเพิ่มเติมอีก) สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือคำถามเกี่ยวกับกรณีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูกดำเนินคดีด้วยการทำผิดกฎทางการเงินถึง 115 ข้อหา
ประเด็นใหญ่ที่ทุกคนจับตามอง คือกระบวนการสอบสวนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นและมีคำตัดสินออกมาเมื่อไร
ล่าสุด Daily Mail สื่อดังจากประเทศอังกฤษ ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกรอบระยะเวลาคร่าวๆ ที่จะมีการตัดสินคดีของแมนฯ ซิตี้ออกมาแล้ว
ต่างกรรมต่างวาระ
สำหรับกรณีการดำเนินคดีของแมนฯ ซิตี้ ซึ่งถูกตั้งข้อหามากถึง 115 ข้อหา และมีการตั้งคณะกรรมการอิสระทำการไต่สวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปี สิ่งที่แฟนฟุตบอลจำนวนมากสงสัยคือ ทำไมจึงไม่มีการตัดสินผลออกมาเสียที ในขณะที่กรณีของเอฟเวอร์ตันที่เริ่มดำเนินคดีในภายหลังกลับสามารถตัดสินจบได้ก่อน
เรื่องนี้เป็นเพราะคดีของสองสโมสรมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก
กรณีของเอฟเวอร์ตัน เป็นการกระทำผิดแค่ข้อหาเดียวเกี่ยวกับเรื่องของการตกแต่งตัวเลขบัญชีประจำปีของสโมสร โดยที่ตัวเลขในการขาดทุนสะสมในรอบ 3 ปีหลังเกินกว่าที่พรีเมียร์ลีกอนุญาต
โดยที่ความจริงแล้วในการดำเนินคดีของเอฟเวอร์ตันเองก็มีปัญหาเรื่องของความล่าช้าเช่นกัน และการที่คดีไม่สามารถตัดสินได้ก่อนจบฤดูกาล 2022/23 ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อสโมสรในพรีเมียร์ลีก ที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นเช่นเดียวกัน เช่น ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาแธมป์ตัน และเลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะนำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมหาศาลรวมแล้วกว่า 300 ล้านปอนด์
ความล่าช้านั้นทำให้พรีเมียร์ลีกพยายามหาทางออกด้วยการเร่งกระบวนการในการไต่สวนให้เร็วขึ้น โดยใช้คณะกรรมการอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งจากภายนอก หรือพูดง่ายๆ คือเพราะคดีของเอฟเวอร์ตันล่าช้ามาก่อน ทำให้ต่อจากนี้ทุกคดีจะถูกเร่งรัดในการไต่สวนให้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี กรณีของแมนฯ ซิตี้มีความแตกต่างกัน อย่างแรกคือกระบวนการเริ่มต้นขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังคดีเอฟเวอร์ตัน
และอย่างต่อมาที่มีความสำคัญอย่างมาก คือการที่จำนวนข้อหาของทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ มีมากถึง 115 ข้อหา จากการกระทำผิดที่ต้องย้อนกลับไปถึงปี 2009 ตลอดระยะเวลา 14 ฤดูกาล
จุดเริ่มต้นจาก Football Leaks
ความจริงแล้วกระบวนการสืบสวนเรื่องการกระทำผิดของแมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2018 หลังเกิดการหลุดของข้อมูลการกระทำทุจริตมากมายในโลกฟุตบอลที่เรียกว่า ‘Football Leaks’ และเคยมีการตัดสินลงโทษจากยูฟ่า ที่สั่งลงโทษแบนห้ามลงแข่งในรายการสโมสรยุโรป 2 ปีเมื่อปี 2020
แต่แมนฯ ซิตี้ได้ยื่นอุทธรณ์ (พร้อมว่าจ้างทนายความที่เก่งที่สุดในโลกมาดูแล) ซึ่งสุดท้ายอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) กลับคำตัดสินในเรื่องของการลงโทษแบน มีเพียงการลงโทษด้วยการปรับเงินเท่านั้น
ต่อมาพรีเมียร์ลีกซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลเองได้มีการรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ และมีการประกาศว่าจะมีการดำเนินคดีมากเป็นประวัติการณ์ถึง 115 ข้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของแมนฯ ซิตี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นความผิดเกี่ยวกับกฎทางการเงิน และยังไม่ให้ความร่วมมือกับพรีเมียร์ลีก
จุดที่มีการจับตามองคือ ตามกฎของพรีเมียร์ลีกไม่มีข้อกำหนดเรื่องของระยะเวลาของการนำหลักฐานมาใช้ประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้พวกเขารอดตัวจากยูฟ่าได้ เพราะหลักฐานที่นำมาจาก Football Leaks หมดอายุ (สำหรับกรณีของยูฟ่า)
วันแห่งการตัดสิน
มาถึงคำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้คือ แล้วจะมีการตัดสินเมื่อไร?
เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานใด แต่ด้าน Daily Mail สื่ออังกฤษเผยแพร่รายงานพิเศษเกี่ยวกับกระบวนการสืบสวน และกรอบระยะเวลาที่คาดหมายว่าคดีจะสิ้นสุด
โดยหลังจากที่ทุกฝ่ายปิดปากเงียบมาโดยตลอด ทางด้าน Daily Mail เปิดเผยว่า แมนฯ ซิตี้ตกลงที่จะเข้าชี้แจงกับคณะกรรมการอิสระเกี่ยวกับการกระทำผิดทั้ง 115 ข้อหา หรือพูดง่ายๆ คือยอมเข้าสู่กระบวนการอย่างเป็นทางการ
แต่สำหรับคนที่คาดหวังว่าเรื่องทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาจต้องผิดหวังเล็กน้อย
เพราะตามรายงานระบุว่า กรอบระยะเวลาคร่าวๆ ที่คาดว่ากว่ากระบวนการสืบสวนจะเริ่มต้นขึ้นโดยแมนฯ ซิตีเข้าให้การด้วยอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2024 หรือพูดง่ายๆ คือปลายปี 2024
แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดจริงๆ เพราะกว่าที่จะมีการตัดสินจริงๆ คาดว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนของปี 2025 หรือก่อนเปิดฤดูกาล 2025/26 ซึ่งสัญญาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะหมดลงในฤดูกาล 2024/25
และหากมีความล่าช้าในกระบวนการ หรือมีการอุทธรณ์ เวลาก็จะล่วงไปอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดหมายได้ว่าแมนฯ ซิตี้พร้อมต่อสู้จนกว่าจะถึงที่สุด
นั่นหมายถึงต่อให้เปิดฤดูกาล 2025/26 แล้วเรื่องก็อาจยังไม่จบดี แม้ว่าจะไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ CAS ได้เหมือนกรณีของยูฟ่าก็ตาม
บทลงโทษของแมนฯ ซิตี้ที่คาด
จากการตัดแต้มเอฟเวอร์ตัน 10 คะแนน ทำให้มีการคาดเดากันว่าแมนฯ ซิตี้น่าจะโดนลงโทษสถานหนักกว่ามาก เพราะคดีมีจำนวนมากกว่าในระดับที่เทียบกันไม่ได้
ก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันจากเหล่านักข่าวฟุตบอลระดับชั้นนำของอังกฤษว่า การลงโทษเอฟเวอร์ตันเป็นการลงโทษให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง และเป็นการกำหนดบรรทัดฐานในเรื่องนี้เอาไว้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ ทำให้เชื่อว่าแมนฯ ซิตี้จะโดนลงโทษสถานหนัก
บทลงโทษที่คาดเดากันมีตั้งแต่การตัดคะแนนมหาศาล – โทษสูงสุดในฟุตบอลอังกฤษที่เคยมีการลงโทษคือการตัด 30 แต้ม (ลูตัน ทาวน์ ฤดูกาล 2008/09) ไปจนถึงการปรับตกชั้น (ยังไม่เคยมีมาก่อนในลีกสูงสุด)
แต่ Daily Mail เชื่อว่าบทลงโทษน่าจะเป็นการตัดแต้มมากกว่า
อย่างไรก็ดีบทสรุปสุดท้ายของ ‘คดีลูกหนังแห่งศตวรรษ’ จะเป็นอย่างไร ถ้าหากเป็นไปตามรายงานข่าวนี้ น่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีเลยทีเดียว
อ้างอิง: