นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย แถลงผ่านทางโทรทัศน์ในวันนี้ (4 สิงหาคม) โดยประกาศยืนยันว่าเขายังคงได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้จะเผชิญกระแสเรียกร้องจากพันธมิตรทางการเมืองและพรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะเปิดให้มีการลงมติไว้วางใจเพื่อพิสูจน์ความเชื่อมั่น หลังการเปิดประชุมสภาในช่วงเดือนกันยายน
กระแสกดดันให้มูห์ยิดดินลาออกจากตำแหน่ง เริ่มปะทุขึ้นหลังการถอนตัวจากรัฐบาลผสมของพรรคอัมโน (UMNO) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคการเมืองใหญ่ของมาเลเซียในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยประธานพรรคอัมโนกล่าวหารัฐบาลมูห์ยิดดินว่าล้มเหลวในการรับมือวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด และใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือทางการเมือง มากกว่าที่จะควบคุมภาวะโรคระบาด
มูห์ยิดดินถูกกดดันให้ลาออกอีกครั้ง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ กษัตริย์แห่งมาเลเซีย ทรงแสดงความผิดหวังและตำหนิการกระทำของรัฐบาล ในการเพิกถอนและไม่ต่ออายุกฎหมายภาวะฉุกเฉิน โดยไม่ได้รับการเห็นชอบจากพระองค์ ซึ่งสำนักพระราชวังมาเลเซียระบุว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ขณะที่พรรคอัมโนระบุว่า มูห์ยิดดินได้สูญเสียความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว พร้อมเผยว่า ส.ส. บางส่วนของพรรคได้เขียนจดหมายผ่านสภา ส่งถึงสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ เพื่อขอถอนการสนับสนุนเขา
อย่างไรก็ตาม มูห์ยิดดินกล่าวว่า เขาได้รับพระราชสาส์นจากสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ แจ้งเรื่องที่ ส.ส. 8 คน ของพรรคอัมโน ส่งจดหมายขอถอนการสนับสนุน
ซึ่งเนื้อหาในพระราชสาส์น สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ทรงตรัสถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีผู้ได้รับการแต่งตั้ง ต้องเป็นบุคคลที่กษัตริย์เชื่อว่าได้รับความเชื่อมั่นจาก เดวัน รักยัต (Dewan Rakyat) หรือสภาผู้แทนราษฎร และสำหรับนายกรัฐมนตรีที่สูญเสียเสียงสนับสนุนข้างมากในสภา ควรต้องลาออกหรือประกาศยุบสภา
มูห์ยิดดินเผยว่าหลังได้รับพระราชสาส์น เขาได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ในช่วงเช้าวันนี้ และกราบทูลว่าเขาได้รับประกาศสนับสนุนจากกลุ่ม ส.ส. จำนวนหนึ่ง ที่ทำให้เชื่อมั่นว่ายังคงได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. ส่วนใหญ่ และจะเปิดให้มีการพิจารณาความชอบธรรมในการบริหารประเทศของเขา ผ่านการลงมติไว้วางใจ หลังเปิดประชุมสภาในเดือนกันยายน
“ดังนั้นการลาออกของผมตามมาตรา 43 (4) ของรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐจึงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมตระหนักดีว่าตำแหน่งของผมในฐานะนายกรัฐมนตรีมักถูกตั้งคำถาม ด้วยเหตุนี้ ผมจึงได้กราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ว่าจะพิจารณาความชอบธรรมของผมในฐานะนายกรัฐมนตรีผ่านกระบวนการรัฐสภา” มูห์ยิดดินกล่าว และยืนยันว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ ชาห์ ทรงเห็นด้วยกับข้อเสนอให้จัดการลงมติไว้วางใจในสภาเพื่อทดสอบความเชื่อมั่น
ภาพ: Photo by Zahim Mohd/NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: