หน่วยงานด้านสาธารณสุขของมาเลเซียให้การอนุมัติแบบมีเงื่อนไขสำหรับวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca ที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ในประเทศไทย
นูร์ ฮิชาม อับดุลลอฮ์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย กล่าวในแถลงการณ์ว่า วัคซีนที่ได้รับจากประเทศไทยจะช่วยให้มาเลเซียเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนตามแผนการฉีดวัคซีนแห่งชาติได้เร็วขึ้น
เดิมทีวัคซีน AstraZeneca เป็นวัคซีนหลักในโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ก่อนที่รัฐบาลมาเลเซียจะตัดสินใจนำวัคซีน AstraZeneca ออกจากโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติ และอนุญาตให้ใช้เป็นวัคซีนทางเลือก หลังมีรายงานความเชื่อมโยงระหว่างการฉีดวัคซีน AstraZeneca กับการเกิดลิ่มเลือดชนิดหายาก
อย่างไรก็ดี วัคซีน AstraZeneca ถูกนำกลับเข้าสู่โครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากมาเลเซียประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน ทำให้ผู้คนหลายแสนคนพยายามแย่งชิงเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ มาเลเซียซื้อวัคซีนของ AstraZeneca จำนวน 12.8 ล้านโดส โดยครึ่งหนึ่งซื้อผ่านโรงงาน COVAX และอีกครึ่งหนึ่งสั่งซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตวัคซีน
รัฐบาลมาเลเซียประกาศก่อนหน้านี้ว่า วัคซีนล็อตแรกจำนวน 610,000 โดสจากประเทศไทยมีกำหนดจัดส่งในเดือนนี้ ตามด้วย 410,000 โดสในเดือนกรกฎาคม และ 1.2 ล้านโดสระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ทั้งนี้ AstraZeneca ส่งมอบวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยล็อตแรกให้แก่กระทรวงสาธารณสุขของไทยแล้ว และจะเริ่มส่งออกวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนกรกฎาคมนี้
ภาพ: Denis Thaust / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: